ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา นาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เปิดเผยว่า…
“กระทรวงการคลัง จะไม่พิจารณาปรับลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปีนี้ หลังจากที่ได้ปรับลดภาษีดังกล่าวมาเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว เนื่องจาก การลดภาษีดังกล่าวถือเป็นภาระทางการคลัง”
โดยเขาได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “การลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 90 % นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปี 2564 ทำให้รัฐบาลเสียรายได้ปีละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นภาระที่สูง ดังนั้น กระทรวงการคลัง จึงเสนอว่า จะไม่มีการลดภาษีดังกล่าวอีก และให้กลับไปใช้อัตราตามกฎหมาย”
“ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นภาระที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้จัดเก็บ และถือเป็นรายได้ของท้องถิ่น ที่นำกลับไปพัฒนาท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งเมื่อรัฐบาลประกาศลดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 90% ทำให้กระทรวงการคลัง ต้องหาเงินมาชดเชยรายได้ของท้องถิ่นที่หายไปด้วย”
ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 ที่โรคโควิด-19 เริ่มระบาดอย่างรุนแรงไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ส่งผลให้เศรษฐกิจภายในประเทศเข้าสู่สภาวะวิกฤต ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ผู้คนตกงาน ห้างร้านต่างๆ ต้องปิดตัว ฯลฯ ทำให้ในเดือนมิถุนายน 2563 รัฐบาลตัดสินใจลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 90% ของภาระภาษีเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะต้องจ่ายในปีนี้ หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เลื่อนกำหนดเวลาให้ประชาชนเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต้องชำระภาษีในส่วนนี้ทุกๆ เดือนเมษายนของทุกปีไปเป็นเดือนสิงหาคม เนื่องจากข้อกำหนดในกฎหมายลูกยังไม่พร้อมใช้ และจะกลับมาชำระภาษีในทุกเดือนเมษายน นับตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
สำหรับอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2565 และ 2566 นั้น กำหนดว่า
1.การประกอบเกษตรกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน 0.01-0.1%
2.ที่อยู่อาศัย อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน 0.02-0.1%
2.1 ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน 0.03-0.1%
2.2 สิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน 0.02-0.1%
2.3 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยกรณีอื่นนอกเหนือจาก 2.1 และ 2.2 อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน 0.02-0.1%
3.การใช้ประโยชน์อื่นนอกเหนือจากข้อ 1 และข้อ 2(เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม) อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน 0.3-0.7%
4.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน 0.3-0.7%
ทั้งนี้ สำหรับบ้านและที่ดินที่เป็นบ้านหลังหลักหรือบ้านหลังแรก ที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี ส่วนที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดา ที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ก็ได้รับการยกเว้นเช่นกัน
เราขอยกตัวอย่างให้คุณได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นดังนี้…
“จากเดิมคุณจะต้องเสียภาษีที่ดิน 500 บาท/ปี แต่ในปี 2563-2564 ภาครัฐมีการลดภาษีที่ดินให้ 90% เท่ากับสองปีที่ผ่านมา คุณจะจ่ายภาษีที่ดินแค่ 50 บาท เท่านั้น! แต่ในปี 2565 คุณจะต้องกลับมาเสียภาษีที่ดินในอัตราเท่าเดิมนั่นก็คือ 500 บาท”
ขอขอบคุณ Cr : https://www.bangkokbiznews.com/business/982846 และเพจ : TaxBugnoms