3 ตัวช่วย WFH (ไม่) ลับ อยู่หอพักได้ทั้งวันไม่ง้อออฟฟิศ

แม้ว่าหอพักที่เลือกไปเช่าอยู่จะมีข้าวของเครื่องใช้ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเตรียมไว้ให้อยู่บ้างเเล้ว ไม่ว่าจะเป็นชุดโต๊ะ ตู้ เตียงสำหรับพักผ่อน หรือชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับทำงาน แต่ก็อาจจะยังไม่ครบความต้องการ และอาจไม่สะดวกสบายเมื่อต้องใช้ต่อเนื่องยาวนานเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วง WFH

รวมถึงในบางห้องพักอาจจะไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเตรียมไว้ให้เลย วันนี้จึงรวบรวมไอเดียไอเท็มตัวช่วยในการทำงาน และตัวช่วยทางการเงินหรือสินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับชาวหอที่จะช่วยให้อยู่หอได้อย่างมีความสุขพร้อมกับทำงานที่หอพักได้อย่างสะดวกสบายมาฝากกัน

1. เครื่องถ่ายเอกสาร All-in-one

หลายครั้งที่ชาวหอจำเป็นต้องรีบใช้สำเนาเอกสารเร่งด่วน แต่เเถวที่หอพักกลับไม่มีร้านถ่ายเอกสารให้บริการ เลยสักร้าน หรือมีแต่ตอนนี้ปิดให้บริการไปเเล้ว เพราะอยู่นอกเวลาทำการ หรือจู่ๆ มีเหตุให้ต้องสแกนเอกสารสีนับสิบๆ แผ่น ค่าใช้จ่ายรวมกันหลายร้อยบาท จะดีกว่าไหมถ้าจะมีตัวช่วยจัดการงานเอกสาร ทั้งงานส่วนตัว และงานออฟฟิศที่โผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว รับประกันได้เลยว่าชีวิตจะง่ายขึ้นทันทีถ้ามีเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นสักตัว

จุดเด่นที่น่าสนใจที่ทำให้ชาวหอควรมีเครื่องปรินท์แบบออลอินวันติดไว้ที่ห้องพักสักเครื่อง คือ ตัวเครื่องสามารถรองรับทุกงานเอกสารได้ครบจบภายในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นถ่ายเอกสาร ปรินท์เอกสาร สแกนเอกสาร หรือแม้กระทั่งส่งแฟกซ์ผ่านตัวเครื่องได้โดยตรง รวมถึงสามารถสั่งการทำงานทุกอย่างได้ผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือโดยไม่ต้องเสียบสายต่อ หรือโอนถ่ายไฟล์งานลงในคอมพิวเตอร์ให้วุ่นวายอีกต่อไป ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ตั้งเเต่ 3,000-5,000 บาท ขึ้นอยู่กับฟังค์ชั่นการใช้งาน ความเร็วในการพิมพ์ และออฟชั่นเสริมอื่นๆ เพิ่มเติม

2. โต๊ะและเก้าอี้เพื่อสุขภาพ

ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือช่วง WFH แบบนี้ หลายคนจำเป็นต้องทำงานอยู่แต่ในห้องพักเพื่อลดความแออัด และความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือเชื้อไวรัสโควิด ทำให้อาจต้องนั่งทำงานนานตั้งเเต่ 4-8 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว

แม้ว่าหอพักที่เช่าอยู่อาจจะมีการเตรียมชุดโต๊ะเเละเก้าอี้สำหรับทำงานให้เเล้ว แต่ชุดโต๊ะเก้าอี้ทำงานที่มีอยู่นั้นอาจไม่เอื้อต่อการนั่งทำงานแบบยาวนานต่อเนื่องติดต่อกันหลายชั่วโมง รวมถึงพฤติกรรมความเคยชิน ความวุ่นวายของงานที่อาจทำให้ต้องฝืนทนนั่งทำงานต่อเนื่องยาวนาน จนเสี่ยงต่อการเกิดอาการกล้ามเนื้อบาดเจ็บเรื้อรั้ง หรืออาการหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมได้ 

โต๊ะทำงานเพื่อสุขภาพ หรือโต๊ะยืนทำงาน (Standing Desk) จึงเป็นตัวช่วยสำหรับใครหลายๆ คนที่ต้องนั่งทำงานนานๆ โดยสามารถเลือกปรับระดับความสูงของตัวโต๊ะทำงานจากระดับความสูงสำหรับการนั่งทำงาน เป็นความสูงสำหรับการยืนทำงานได้ด้วยระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือระบบแมนนวล ซึ่งราคาของโต๊ะทำงานเพื่อสุขภาพจะเริ่มต้นอยู่ที่ 5,000-50,000 บาท ซึ่งจะแตกต่างกันตามขนาดของโต๊ะ และระบบที่ใช้ในการเปลี่ยนระดับของโต๊ะทำงาน

รวมถึงเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ (Ergonomic) ที่จะช่วยรักษาสรีระของร่างกายโดยเฉพาะช่วงหลังให้ไม่ปวดเมื่อย หรือผิดรูปเรื้อรั้งจนอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ในขณะนั่งทำงานภายในห้องพักนั่นเอง โดยราคาทั่วไปของเก้าอี้เพื่อสุขภาพจะเริ่มต้นตั้งเเต่ 3,000-50,000 บาทเลยดีทีเดียว ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ และเทคโนโลยีที่ใช้ในการออกแบบตัวเก้าอี้เพื่อสุขภาพ

แม้ว่าจะราคาของโต๊ะและเก้าอี้เพื่อสุขภาพจะสูงไปอยู่บ้าง แต่หากพิจารณาประโยชน์ที่จะได้รับในระยะยาวแล้ว รวมถึงหากต้องย้ายหอพักก็สามารถเคลื่อนย้ายนำไปใช้ที่ห้องใหม่ได้อีกด้วย บริการสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยทางการเงินที่ชาวหอสามารถศึกษาและเลือกใช้บริการได้สำหรับซื้ออุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการทำงานในระหว่างช่วง WFH แบบนี้ 

3. เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องลดความชื้น

แม้ว่าประเทศไทยจะมีอากาศแบบร้อนชื้น การที่อากาศภายในห้องพักจะชวนให้เหงื่อออกได้โดยง่ายเเม้จะยังไม่ได้ออกแรงขยับร่างกายนั้น นับเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่หลายห้องเช่าที่เข้าไปอยู่นั้นอาจมีปัญหากับความชื้น (Humidity) ภายในห้องสูงมากผิดปกติ รวมถึงอาจมีปัญหาฝุ่นละอองสะสมอีกด้วย

สังเกตได้จากคราบเชื้อราตามมุมฝ้าเพดาน มุมผนังห้อง หรือข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากไม้ รวมถึงกลิ่นอับชื้นตามเครื่องนอน เสื้อผ้า หรือความรู้สึกรื้อนชื้นเมื่อเข้ามาอยู่ภายในห้อง โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ห้องมีความชื้นสูงอาจมีสาเหตุมาจากการที่แสงแดดไม่สามารถส่องเข้ามาภายในห้องได้ รวมถึงอากาศภายในห้องระบายถ่ายเทได้ไม่ดีนั่นเอง ซึ่งหากไม่จัดการปัญหาความชื้น ทำความสะอาด หรือแก้ไขคราบเชื้อราให้เรียบร้อย อาจส่งผลกระทบต่อระบบการหายใจได้ในระยะยาว

เครื่องลดความชื้น (Humidifier) เป็นตัวช่วยเริ่มต้นที่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาความชื้นภายในห้องพักได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเจาะผนังห้องพักให้เสียหายเป็นรอยแต่อย่างใด แม้ว่าเครื่องปรับอากาศ (แอร์) จะช่วยไล่ความชื้นภายในห้องได้ด้วยเหมือนกัน 

โดยราคาเครื่องดูดความชื้นเริ่มต้นตั้งแต่ 1,500-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของเครื่องควบคุมความชื้นภายในห้อง ทั้งความสามารถพื้นฐานของตัวเครื่องในการดูดความชื้น หรือความสามารถเพิ่มเติมของตัวเครื่อง เช่น การดูดฝุ่น เชื้อโรค แบคทีเรีย หรือหากไม่มีปัญหาความชื้นภายในห้อง อาจเลือกใช้เฉพาะเครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) แต่เพียงอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ตั้งเเต่ 3,500–20,000 บาท

แม้ว่าในห้องเช่าจะมีข้าวของเครื่องใช้เตรียมไว้ให้ผู้เช่าไว้แล้ว แต่หลายครั้งก็อาจจะยังไม่สะดวกหรือตอบโจทย์ความต้องการได้ครบ ทำให้การที่จะอยู่ในห้องเช่าได้อย่างเป็นสุขและสุขภาพดีอาจต้องมองหาอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมเพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานและใช้ชีวิตมากขึ้น แต่หากวงเงินบัตรเครดิตไม่พอ หรือหมุนเงินไม่ทัน ลองเลือกใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลจาก แรบบิท แคร์ ที่คัดพิเศษมาเเล้วว่าดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูง อนุมัติง่ายพร้อมใช้ทันที พร้อมรับคำแนะนำได้ฟรีจากผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ โทรเลย 1438 หรือ rabbitcare