หากจะกล่าวว่า เรซูเม่(Resume) คือ First Impression แรกในการสมัครงานก็คงจะไม่ผิด โดยฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือฝ่าย HR ที่มีประสบการณ์มักจะมองหาเรซูเม่ที่มีความโดดเด่น ชัดเจน กระชับ และแสดงถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน ดังนั้นถ้าคุณทำเรซูเม่ได้ตรงกับความต้องการของ HR มากเท่าไหร่ โอกาสในการได้งานก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้การทำเรซูเม่ที่โดดเด่นและมีข้อมูลที่ครบถ้วน(ข้อมูลกระชับ ไม่เยิ่นเย้อ) จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรจะมองข้าม และในบทความนี้เราจะมาเผยความลับจาก HR ว่าเรซูเม่ที่ดีต้องมีอะไรบ้าง ? เพื่อที่คุณจะได้นำไปเตรียมตัวและปรับปรุงเรซูเม่ให้เป็นที่น่าสนใจและดึงดูดสายตาของเหล่า HR ได้ตั้งแต่แรกเห็น และนำไปสู่การเพิ่มโอกาสที่จะได้รับการสัมภาษณ์งานและได้ทำงานตามที่ต้องการในที่สุด
1. การออกแบบคือใจความสำคัญในการทำเรซูเม่
การออกแบบเรซูเม่ที่เรียบง่ายและเป็นระเบียบจะช่วยทำให้ HR สามารถอ่านและเข้าใจข้อมูลของคุณได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยควรใช้ฟอนต์ที่อ่านง่าย เช่น Arial, Calibri หรือ Times New Roman และใช้ขนาดฟอนต์ที่เหมาะสม(ประมาณ 12 - 14 pt) ส่วนการใช้สีควรหลีกเลี่ยงสีที่ฉูดฉาดและควรเลือกใช้สีโทนสุภาพสบายตา แต่ในกรณีที่คุณทำงานในสาย Art หรือเน้นความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก รายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบก็อาจจะต้องนอกกรอบหรือมีลูกเล่นกันสักหน่อย ซึ่งคุณสามารถใส่ความเป็นตัวเองไปได้อย่างเต็มที่ แต่ขอเพียงแค่ภาพรวมต้องอ่านง่าย ไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป
2. เขียนบทสรุปที่กระชับและชัดเจน
บทสรุป (Summary) ควรเขียนให้กระชับและชัดเจน เพื่อให้ HR เข้าใจคุณได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที ดังนั้นคุณควรระบุความสามารถ ประสบการณ์และเป้าหมายการทำงานในประโยคสั้น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น "ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลที่มีประสบการณ์กว่า 5 ปีในการวางแผนและดำเนินกลยุทธ์การตลาดออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขายและการรับรู้แบรนด์" เป็นต้น
3. ระบุประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา
ในการระบุประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาลงในเรซูเม่ คุณควรที่จะต้องระบุชื่อบริษัท ตำแหน่งงาน ระยะเวลาในการทำงาน และควรเน้นประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่คุณสมัครพร้อมกับอธิบายความสำเร็จหรือผลงานที่เป็นรูปธรรม มองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ควรเพิ่มหัวข้อย่อยเพื่อแสดงความรับผิดชอบและผลงาน เช่น เพิ่มยอดขายร้อยละ 20 ภายในปีแรกของการทำงานโดยใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ใหม่, ได้รับตำแหน่ง Best Seller ในปี 2023, ได้รับเลือกเป็นผู้ออกแบบดีไซน์ Ads ของบริษัท... เป็นต้น
4. ใช้ตัวเลขและสถิติเพื่อแสดงผลงาน
การใช้ตัวเลขและสถิติในเรซูเม่จะช่วยทำให้ HR มองเห็นภาพความสามารถของคุณได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยการระบุข้อมูลที่เป็นตัวเลข เช่น การเพิ่มยอดขายได้ 120% ภายในระยะเวลา 2 เดือน, เพิ่มยอดผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย 50% ในเวลา 6 เดือน, เพิ่มยอดทราฟฟิคในเว็บไซต์ได้ 90% จากเดิม, รับหน้าที่ดูแลประสานงานในอีเวนท์ระดับนานาชาติที่มีแขกเข้าร่วมกว่า 3,000 คน เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดในส่วนนี้จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวคุณได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
5. อัปเดตข้อมูลการศึกษาและการฝึกอบรม
การระบุชื่อสถานศึกษา สาขาวิชาและปีที่สำเร็จการศึกษา, การได้รับใบ Certificate ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร ฯลฯ เป็นข้อมูลที่คุณควรจะใส่ลงไปในเรซูเม่ เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณมีความสามารถและตรงกับความต้องการของตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร รวมไปถึงยังแสดงให้เห็นว่าคุณไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ๆ
6. ใช้ภาษาที่อ่านง่าย กระชับ ได้ใจความ
การทำเรซูเม่คุณควรที่จะต้องใช้ภาษาที่อ่านง่าย กระชับ ได้ใจความ หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาทางการเกินไปและไม่ควรพร่ำพรรณนาเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะนอกจากจะไม่เกี่ยวกับเนื้องานแล้ว มันยังจะทำให้เรซูเม่ของคุณดูรกตาจนไม่น่าอ่านอีกด้วย
7. เรซูเม่ควรมีแค่ 1 หน้า
เรซูเม่ที่ดีควรจะมีแค่ 1 หน้า เพราะอย่าลืมว่าวัน ๆ หนึ่ง HR ไม่ได้อ่านเรซูเม่ของคุณแค่คนเดียว ดังนั้นหากคุณมีเรซูเม่หลาย ๆ หน้า นั่นก็อาจจะทำให้เขาเสียเวลาและปัดตุ๊บเรซูเม่ของคุณเอาได้ง่าย ๆ ฉะนั้นเลือกผลงานที่โดดเด่น เนื้อหากระชับ เพื่อให้เรซูเม่ของคุณสรุปจบเพียงแค่หน้าเดียว
8. ตรวจสอบความถูกต้อง
การตรวจสอบการสะกดคำและไวยากรณ์เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการทำเรซูเม่ เพราะถ้าหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น นั่นก็สามารถทำให้คุณดูไม่มีความเป็นมืออาชีพ ดังนั้นควรตรวจสอบเรซูเม่หลาย ๆ ครั้งหรือให้คนอื่นช่วยตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้องและไม่มีข้อผิดพลาด
9. เพิ่มลิงก์ไปยังผลงานออนไลน์แนบไปกับ E-Mail
หากคุณมีผลงานออนไลน์ที่ไม่สามารถใส่ไปในเรซูเม่ได้ เช่น บล็อก โปรไฟล์ LinkedIn หรือเว็บไซต์ผลงาน ก็ให้คุณเพิ่มลิงก์เหล่านี้ไปในเรซูเม่ ซึ่งการเพิ่มลิงก์ไปยังผลงานออนไลน์จะช่วยทำให้ HR มองเห็นภาพตัวอย่างผลงานของคุณได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้คุณอาจจะแนบข้อความไว้ใน E-Mail ที่ใช้ส่งเรซูเม่ เช่น ดูผลงานเพิ่มเติมที่ LinkedIn Profile หรือ Portfolio Website เป็นต้น
10. ปรับแต่งเนื้อหาในเรซูเม่ให้เหมาะสมกับงานที่สมัคร
ไม่ควรทำเรซูเม่ฉบับเดียวและส่งหว่านไปทุกบริษัทที่คุณต้องการสมัคร ซึ่งคุณควรที่จะปรับแต่งเนื้อหาในเรซูเม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบริษัท เพื่อที่คุณจะได้มีโอกาสได้รับการพิจารณามากยิ่งขึ้น อาทิ บริษัท A เน้นทักษะและประสบการณ์การทำงาน บริษัท B เน้นทักษะทางด้านภาษา บริษัท C เน้นผู้ที่รับแรงกดดันได้ดี เป็นต้น ซึ่งถ้าคุณรู้ความต้องการและปรับเปลี่ยนเนื้อหาในเรซูเม่ให้เหมาะสม มันก็จะช่วยทำให้เรซูเม่และตัวคุณมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลยล่ะ
และความลับจาก HR ที่ได้เปิดเผยไปในบทความนี้ไม่ว่าจะเป็นการเขียนเรซูเม่อย่างกระชับและชัดเจน การออกแบบ ประวัติการทำงาน ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยทำให้เรซูเม่ของคุณโดดเด่นจนสามารถดึงดูดความสนใจจาก HR ได้ และไว้โอกาสหน้าเราจะนำทริคหรือเคล็ดลับดี ๆ อะไรมาฝากอีก คุณก็สามารถติดตามได้ที่ Renthub Blog