เข้าสู่หน้าฝนทีไรก็ต้องมีเรื่องให้ดูแลมากขึ้นตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพกาย ตลอดจนสุขภาพของที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะผนังห้องหรือผนังบ้านที่มักจะเกิดปัญหาน้ำฝนรั่วซึมตลอดในช่วงฤดูกาลนี้ ดังนั้นวันนี้ Renthub จึงขอเสนอเทคนิคและขั้นตอนดูแลผนังห้อง หรือผนังบ้านของคุณในช่วงหน้าฝนนี้กัน
ตรวจเช็คสภาพผนัง รอยต่อ ขอบผนัง มุมหน้าต่าง
ก่อนจะเข้าหน้าฝนเมื่อไหร่ ขั้นตอนแรกที่ต้องจัดการก็คือการตรวจเช็คสภาพรอยต่อผนัง ขอบหน้าต่าง มุมหน้าต่างให้ดีว่าปิดแน่นสนิทไหม หากเป็นบ้านให้ลองปิดหน้าต่างและลองฉีดน้ำเข้ามาบริเวณหน้าต่าง หากมีการรั่วซึมต้องรีบแก้ไขด่วน ส่วนถ้าเป็นผนังห้อง ไม่ว่าจะเป็นคอนโดหรือหอพัก โดยเฉพาะเพื่อน ๆ คนไหนที่เช่าหอพักอยู่ห้องมุมของตึก ให้สังเกต มุมห้องรอยต่อผนังให้ดี ถ้ามีรอยรั่ว รอยร้าว หรือคราบน้ำซึมเข้ามาควรรีบแจ้งนิติบุคคลหรือทางหอพักให้มาดูแล และซ่อมแซมโดยด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้นานผนังอาจจะชำรุดหรือกลายเป็นปัญหาใหญ่ในหน้าฝนได้ อีกทั้งจะทำให้ปัญหาอื่น ๆ ที่ไม่คาดคิดตามเข้ามาได้ เช่น ผนังเป็นเชื้อรา จะทำให้ห้องของเราดูไม่น่าอยู่มากขึ้น
image credit by: unsplash
ปกป้องผนังห้องไม่ให้ชื้น ปิดหน้าต่างเอาไว้ตลอดเวลาก่อนฝนตก
นอกจากเช็คสภาพหน้าต่าง ผนังห้องแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดโดยเฉพาะคนที่อยู่หอพัก อพาร์ทเม้นท์ คอนโด คือการปิดหน้าต่างให้สนิทแม้จะไม่อยู่ห้องก็ตาม เพราะเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าฝนจะตกลงมาตอนไหน อีกทั้งกระแสลมเหนือพื้นดินที่พัดเข้าบ้าน เข้ามาทางหน้าต่างกับอาคารสูง ยิ่งพัดพาความชื้นเข้าสู่ห้องด้วย ซึ่งในระยะยาวจะทำให้ผนังห้อง หรือพื้นห้องเกิดเชื้อราได้ นอกจากนั้นถ้าจะให้ดีเมื่อฝนหยุดตกก็หมั่นเช็ดทำความสะอาดบานหน้าต่างให้แห้ง จะช่วยเรื่องความชื้นในห้องได้เยอะขึ้นมากทีเดียว
วิธีป้องกันและขจัดเชื้อราบนผนัง ปัญหาที่มากับฝน
นอกจากขั้นตอนการป้องกันผนังห้องในหน้าฝนแล้วก็ต้องรู้วิธีขจัดคราบเชื้อราเก่า เชื้อราใหม่ที่มากับฝนด้วย เพื่อให้ผนังห้องดูใหม่อยู่เสมอและพร้อมรับหน้าฝนในฤดูถัดไป โดยการขจัดคราบเชื้อรานั้นมีเทคนิคง่าย ๆ คือการใช้น้ำยาซักผ้าขาวมาผสมกับแอลกอฮอล์ โดยใช้มาตราส่วนน้ำยาซักผ้า 1 ส่วนต่อแอลกอฮอร์ 12 ส่วน และนำผ้าชุบน้ำไปเช็ดรอยดำจากเชื้อราบนผนัง แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดผนังห้องให้สะอาด คราบเชื้อราก็จะหายไป แล้วอย่าลืมดูแลรักษาผนังห้องตามขั้นตอนอยู่เสมอเพื่อให้ผนังห้องไม่เกิดคราบเชื้อราอีก
ขั้นตอนขจัดคราบเหลืองบนผนังที่มาจากน้ำและความชื้น
บนผนังห้องไม่ได้มีแต่คราบเชื้อรา แต่ยังมีคราบสกปรก คราบเหลือง ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากแบคทีเรีย และความสกปรกสะสมบนผนังห้อง ดังนั้นคราบเหล่านี้ก็ไม่ควรปล่อยไว้ให้อยู่บนผนังห้องของเราเช่นกัน เทคนิคง่าย ๆ ในการดูแลผนังห้องให้สวยใหม่อยู่เสมอก็คือ การทำความสะอาดผนังห้องด้วยสารฟอกขาวเพียง 1 ถ้วย กับ น้ำเปล่า 1 แกลลอน ก็จะทำให้คราบเหล่านั้นหายไป อีกทั้งยังช่วยป้องกันคราบที่จะเกิดใหม่จากความชื้น แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มากับหน้าฝนได้ด้วย
เทคนิคแก้ปัญหารั่วซึมบนผนัง แก้ไขได้ อย่าปล่อยให้รั่วนาน
เนื่องจากบ้าน คอนโด หอพัก อพาร์ทเม้นท์ เป็นสถานที่ที่อยู่ต้องอยู่กับเราไปอีกนาน หากคุณทำตามเทคนิคและขั้นตอนดังกล่าว แล้วแต่ก็ยังพบปัญหาของผนังห้องที่มาจากฝน อาทิ ผนังห้องรั่ว ผนังห้องน้ำซึม ผนังห้องชำรุด และไม่อยากเสียเงินเรียกช่าง ก็สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้ โดยการสังเกตรอยรั่วซึมแตกร้าวของฝาผนังห้อง หากจุดไหนมีคราบน้ำหรือรอยน้ำรั่วซึม ให้มาร์คจุดเอาไว้และเตรียมย้ายเฟอร์นิเจอร์ระแวกนั้นออก จากนั้นใช้กาวหรือยาแนวอุดรอยรั่วซึมบริเวณนั้น ตลอดจนคราบน้ำไหล รอให้แห้งและทาด้วยสีกันซึมอีกหนึ่งรอบ ปิดรอยกาวด้วยสีกันเชื้อราดี ๆ สักยี่ห้อ ห้องของคุณก็จะได้ผนังห้องใหม่ไว้รับหน้าฝนฤดูต่อไปได้อย่างไม่ต้องกังวลใจกันแล้วล่ะ
ทั้งนี้การซ่อมแซมปัญหาผนังห้องรั่วซึมด้วยตนเอง อาจจะช่วยประหยัดงบประมาณได้เยอะ แต่ถ้าหากดูไม่ดีก็จะทำให้เกิดอาการน้ำขังจากฝาผนังด้านบนได้ โดยเฉพาะหอพัก อพาร์ทเม้นท์ คอนโด ที่อยู่ชั้นบนของอาคาร ดังนั้นหากไม่แน่ใจว่าจะซ่อมได้หรือไม่มั่นใจว่าอาการรั่วซึมมากน้อยแค่ไหน ให้มาร์คจุดไว้แล้วแจ้งช่างมาซ่อมจะดีกว่า แต่ถ้าหากคุณอาศัยอยู่ในหอพัก Renthub แนะนำว่าหากพบเจอปัญหาประเภทนี้ก็ให้รีบแจ้งทางนิติบุคคล หรือทางหอพัก อพาร์ทเม้นท์โดยด่วน เพราะถ้าเรายิ่งเช่าอยู่ไปนาน ๆ อาจสร้างความรำคาญใจกับการอยู่อาศัยของเราได้ อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดปัญหาลุกลามบานปลายไปจนถึงขั้นทางหอพักเรียกเก็บเสียหายกับเงินที่คุณทำสัญญาและวางมัดจำไว้แต่แรกก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรปล่อยปัญหานี้เอาไว้กับห้องนอนของคุณเด็ดขาด