ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้นจนทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้ ส่งผลให้กรมการแพทย์จำเป็นต้องสร้างแนวทางปฏิบัติให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด้วยวิธีแนะนำผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่รุนแรง หรืออาการป่วยที่อยู่ในกลุ่มสีเขียวทำการแยกกักตัวอยู่กับบ้าน หรือการทำ Home Isolation ซึ่งไม่ว่าคุณจะเพิ่งตรวจพบเชื้อ การจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลเมื่ออาการดีขึ้นกว่าเดิมแต่ยังมีเชื้อ หรือต้องกักตัวเอง 14 วัน ก็ตาม สำหรับใครที่ต้องแยกกักตัวกับทางหอพักของตนเองจะรู้ได้อย่างไรว่าปลอดภัยหรือไม่ และมีอะไรต้องเตรียมบ้าง Renthub มีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องทำ Home Isolation มาฝากกัน
Home Isolation กับการแยกกักตัวที่หอพักปลอดภัยไหม?
ต้องทำความเข้าใจว่าด้วยสถานการณ์ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤตเพราะจำนวนติดเชื้อของผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มมากขึ้นเป็นหลักหลายพันจนแตะหลักหมื่น ส่งผลให้โรงพยาบาลทุกแห่งไม่สามารถรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อทั้งหมดเอาไว้ดูแลได้ แนวทางการทำ Home Isolation หรือการกักตัวเองภายในบ้านพักจึงเป็นอีกวิธีที่ถูกนำมาประกาศใช้ในตอนนี้
เมื่อถามว่าคนที่อาศัยในหอพักจะมีความปลอดภัยโดยไม่เป็นพาหะของการแพร่ระบาดไปสู่ผู้อื่นได้มากน้อยแค่ไหน คงต้องมองกันถึงเรื่องความรับผิดชอบ และการจัดการของหอพักนั้นด้วย หากผู้ป่วยมีความรับผิดชอบ ไม่ออกไปนอกห้อง มีการจัดเตรียมอาหาร เครื่องใช้อุปโภคบริโภคเบื้องต้นจากทางหอพัก รวมถึงมีการทำพื้นที่กักบริเวณชัดเจน ไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปยุ่งเกี่ยว แบบนี้ก็นับว่าปลอดภัยและจะช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี
การเตรียมตนเองให้พร้อมเมื่อต้อง Home Isolation ทั้งที่บ้านและที่หอพัก อพาร์ทเม้นท์
1. ไม่มีการปกปิดข้อมูลใด ๆ กับทางแพทย์ทั้งสิ้น
สิ่งแรกเมื่อรู้ว่าตนเองได้รับเชื้อโควิด-19 และต้องเข้าพักรักษาอาการต้องไม่มีการปกปิดข้อมูลใด ๆ กับทางแพทย์หรือผู้ที่สอบถามเพื่อบันทึกข้อมูลเป็นอันขาด ทั้งเรื่องสถานที่ที่ตนเองเดินทางไปมาตลอด 14 วันก่อนหน้า เรื่องอาการป่วยของตนเอง รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่มีความสำคัญ เพื่อให้แพทย์หรือผู้พิจารณาจะได้จำแนกออกชัดเจนว่าอาการระดับใดควรเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และอาการในลักษณะใดที่สามารถกักตัวอยู่ที่บ้านได้แบบ Home Isolation
2. ต้องรีบแจ้งกับทางเจ้าของหอพัก อพาร์ทเม้นท์ หรือนิติบุคคล
เมื่อทางแพทย์อนุญาตแล้วว่าถือเป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ที่สามารถกักตัวอยู่กับบ้านได้ ผู้ป่วยต้องทำการแจ้งให้กับทางเจ้าของหอพัก อพาร์ทเม้นท์ หรือนิติบุคคลทราบทันที เพื่อให้ทางหอพักได้เตรียมความพร้อม ทั้งการแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาฉีดพ่นทำความสะอาดห้องพักผู้ป่วยและบริเวณโดยรอบของหอพัก รวมถึงขั้นตอนอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสม เช่น การจัดสถานที่ทางเดินเฉพาะให้กับผู้ป่วย ไม่ต้องผ่านจุดที่ผู้คนพักอาศัย หรือแจ้งให้กับผู้เข้าพักคนอื่นทราบถึงการกักตัว เพื่อป้องกันอันตรายไม่ให้เกิดการติดเชื้อ เป็นต้น
3. เตรียมอุปกรณ์ป้องกันให้พร้อม
เมื่อรู้ว่าตนเองต้องทำการกักตัวแบบ Home Isolation อยู่ที่บ้าน ต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ ให้พร้อมเพื่อลดความเสี่ยงที่จะไปแพร่เชื้อกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัยที่ต้องสวมใส่มากกว่า 1 ชั้น ในระหว่างการเดินทางกลับหอพัก ถุงสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัยในระหว่างกักตัวอยู่กับบ้าน พร้อมระบุเอาไว้หน้าถุงว่าเป็นหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ถุงมือใช้แล้วทิ้งเพื่อไม่ให้มือของตนเองไปสัมผัสกับข้าวของเครื่องใช้ส่วนรวม เป็นต้น
4. เตรียมยารักษาโรคให้ครบถ้วน
เมื่อแพทย์ระบุว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 แต่สามารถกักตัวอยู่กับบ้านได้ จะมีการจ่ายยารักษาเพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรง และเป็นการรักษาเพื่อให้เชื้อหมดไปโดยเร็ว ตรงนี้ผู้ป่วยที่เตรียมพร้อมกักตัวต้องตรวจสอบจำนวนยาให้ดีว่าครบถ้วนตามจำนวนวัน และในกรณีที่มีโรคอื่นแทรกซ้อนต้องแจ้งแพทย์เพื่อให้ได้รับยารักษาที่ครบถ้วน ไม่สุ่มเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวของตนเอง รวมถึงยาบางชนิดที่อาจต้องมีติดไว้ เช่น กลุ่มยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้ท้องเสีย เป็นต้น
5. ห้ามออกไปไหนอย่างเด็ดขาด
ข้อนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นความรับผิดชอบอย่างมากของผู้ที่ทำการกักตัวเองแบบ Home Isolation เพราะต้องเข้าใจว่าตัวคุณนั้นคือผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่ภายในร่างกาย เมื่อมาถึงห้องพักแล้วห้ามออกไปไหนเด็ดขาด ลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น แม้กระทั่งการออกไปหน้าห้องเองก็ไม่ควรทำ เพราะบางทีเราอาจเผลอไอ จาม แล้วเอามือไปจับลูกบิดประตูหรือผนังทางเดินโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจส่งผลให้เชื้อแพร่กระจายออกไปได้เช่นกัน
6. เตรียมอาหารแห้ง หรือแจ้งให้ผู้ดูแลหอพักช่วยแจ้งร้านอาหารใกล้เคียงมาส่งทุกวัน
อาหารเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมพร้อมระหว่างกักตัวเอง 14 วันอยู่กับบ้าน หลัก ๆ แล้วควรมีอาหารแห้งที่ทำเองได้ง่าย ๆ และอาจบอกกับเจ้าของห้องพัก / นิติบุคคลให้ช่วยแจ้งร้านอาหารใกล้ ๆ นำอาหารมาส่งให้ทุกวัน หรือบางวันตามที่ระบุ ทั้งนี้ในการมาส่งอาหารควรเป็นกล่องสำเร็จรูปทานแล้วทิ้ง ไม่มีการรับกับมือโดยตรง ให้ผู้ส่งวางเอาไว้ด้านหน้าห้องแล้วจึงค่อยเปิดประตูออกไปหยิบจะดีที่สุด
7. เตรียมเสื้อผ้า เครื่องใช้ส่วนตัวหากต้องย้ายที่กักตัว
ท้ายที่สุดต้องมีการเตรียมเสื้อผ้า เครื่องใช้ส่วนตัว เก็บกระเป๋าอยู่เสมอ หากไม่แน่ใจว่าจะพักอยู่ที่หอได้นานเท่าไหร่ หรือในกรณีโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่าให้เข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน เพื่อความรวดเร็ว และลดความเสี่ยงต่ออาการที่รุนแรงของตนเอง
อย่างไรก็ตามการพยายามดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อคือเรื่องดีที่สุด ไม่มีใครอยากเจ็บป่วยด้วยโรคระบาดรุนแรงนี้ แต่ถ้าเกิดได้รับเชื้อมาจริง ๆ แล้วต้องกักตัวแบบ Home Isolation ก็ควรทำตามคำแนะนำทั้งหมด จะได้ปลอดภัยทั้งตนเองและผู้อื่น ไม่แพร่เชื้อวงกว้างออกไปอีก ทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นการเตรียมความพร้อมไว้ก่อนเพื่อป้องกัน แต่ถ้าจะให้ดี หมั่นล้างมือบ่อย ๆ และไม่ติดเชื้อจะดีที่สุดค่ะ