จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ทุกภาคส่วนเองต้องเจอกับปัญหานับไม่ถ้วน รวมถึงกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่ในปีการศึกษา 2564 ภาคเรียนที่ 1 นี้ ยังแทบไม่มีโอกาสได้เข้าชั้นเรียนจริงเลยด้วยซ้ำ แถมการเรียนออนไลน์ก็ต้องอยู่บ้าน ใช้น้ำ-ไฟของตนเองทั้งหมด
ล่าสุดทาง ครม. เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ควรต้องลดค่าใช้จ่ายในบางส่วนของนักเรียน – นักศึกษาลง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และความเป็นจริงที่ว่าค่าบำรุงการศึกษาเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมกับน้อง ๆ ทุกคน
นายอนุชา บูรพชัยศรี ตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการนำเรื่องนี้จากที่ประชุม ครม. มาเปิดเผยต่อสื่อว่า ทาง ครม. เองเห็นชอบในการให้ความช่วยเหลือกับนักเรียน – นักศึกษาทุกคน รวมถึงเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของภาคครัวเรือน ภาคประชาชน ที่มีบุตรหลานอยู่ในวัยศึกษา จึงนำเอาหลักมาตรการความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายในด้านการศึกษา ตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานไปจนถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นสถาบันของรัฐหรือเอกชนก็ตาม
โดยข้อสรุปสำหรับมติ ครม. ที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับกลุ่มผู้ปกครองนักเรียน – นักศึกษา จึงประกอบไปด้วย
กลุ่มนักเรียน (ผู้ที่ยังไม่เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย และอยู่ในระบบการศึกษาไทย)
มีการให้เงินสนับสนุนด้านค่าใช้จ่ายกับผู้ปกครอง เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท / นักเรียน 1 คน
มีการจัดสรรเรื่องค่าใช้จ่ายบางส่วนให้กับกลุ่มสถานศึกษาเพื่อนำไปเป็นทุนช่วยเหลือจัดการเรียนรู้
มีการลดหรือพยายามตรึงค่าใช้จ่ายของบรรดากลุ่มโรงเรียนเอกชนให้อยู่ในระดับเดียวกับ ปีการศึกษา 2563
กลุ่มนิสิต / นักศึกษา
กลุ่มบุคคลที่ศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษาไม่ว่าจะเป็นสถาบันของภาครัฐหรือเอกชนก็ตาม แบ่งออกเป็นการลดค่าเทอม และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังนี้
กลุ่มนิสิต / นักศึกษาในมหาวิทยาลัยภาครัฐ จะช่วยลดค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาอื่นเป็น 3 ระดับ
ลดให้ 50% – สำหรับค่าเทอม และค่าธรรมเนียมก้อนแรก 50,000 บาท
ลดให้ 30% – สำหรับค่าเทอม และค่าธรรมเนียมส่วนเกินตั้งแต่ 50,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
ลดให้ 10% – สำหรับค่าเทอม และค่าธรรมเนียมส่วนเกินตั้งแต่ 100,000 บาท ขึ้นไป
ทั้งนี้ส่วนลดทั้งหมดเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 50% ของค่าเทอมและค่าธรรมเนียม
ส่วนกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยภาคเอกชน ทางรัฐบาลจะช่วยในเรื่องของเงินสนับสนุนจำนวน 5,000 บาท / คน
เมื่อรวมวงเงินทั้งหมดแล้วกรอบวงเงินในการช่วยเหลือกลุ่มนักเรียนจะอยู่ที่ 23,000 ล้านบาท ส่วนกรอบวงเงินช่วยเหลือกลุ่มนิสิต – นักศึกษา จะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท
นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว ทางด้านกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ยังมีการร้องขอให้พิจารณาเพิ่มเติม รวมถึงยังขยายเวลาในการผ่อนชำระเพื่อจัดหาอุปกรณ์ – โปรแกรมการเรียนออนไลน์ รวมถึงยังมีเรื่องของการให้ส่วนลดค่าหอพักอีกด้วย
เรื่องนี้เรายังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการยืนยันในข้อมูลทั้งหมดนี้มากน้อยเพียงใด เพื่อให้อนาคตของชาติไม่ได้รับความเดือดร้อนมากไปกว่านี้ สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัยไปดูทริคการเตรียมตัวและค่าใช้จ่ายกันว่าต้องเตรียมในส่วนไหนบ้าง หรือใครที่เรียบจบแล้วและกำลังทำงานอยู่เข้าข่ายเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 ก็สามารถตรวจสอบสิทธิในการเยียวยาผู้ประกันตน มาตรา 33 ได้ ส่วนใครที่กำลังมองหาหอพักก็สามารถดูรีวิวหอพักในย่านต่างๆ ที่เร้นท์ฮับนำมารีวิวให้ดูกัน
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่ blog.renthub.in.th
ติดตามข้อมูล ข่าวสาร เรื่องหอพัก ได้ผ่านช่องทาง Social Media ทั้ง Facebook, Twitter, Instagram, Line