Airbnb คืออะไร และมีจุดเด่นที่น่าสนใจหรือแตกต่างจากเจ้าอื่นอย่างไรบ้าง?

การเดินทางท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสำหรับคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือแม้แต่ในช่วงหยุดยาวของแต่ละปี ซึ่งในการเดินทางไปยังสถานที่เหล่านั้น หนึ่งในสิ่งที่คุณจะต้องเตรียมพร้อม และให้ความสนใจมากที่สุด แน่นอนว่าจะต้องเป็นการมองหาที่พัก สำหรับการพักผ่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ และหากคุณเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบการเดินทางหรือท่องเที่ยว วันนี้เราก็มีแพลตฟอร์มที่น่าสนใจอย่าง Airbnb
ที่น่าจะช่วยอำนวยความสะดวก และตอบโจทย์การค้นหาที่พักให้กับคุณได้ง่ายขึ้นมาอย่างแน่นอน

Airbnb เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการใช้เพื่อเช่าที่พักอาศัยแบบชั่วคราว ที่มีเปิดให้บริการทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในขณะนี้ จากจำนวนที่พักที่มีอยู่มากกว่าหลายล้านรายการทั่วโลก และรวมถึงประเทศไทยที่เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ทั้งสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน โดยตัว Airbnb ได้มีการเปิดตัวมาตั้งแต่ในช่วงปี 2550 และมีรูปแบบที่พักให้สามารถเลือกจองได้หลากหลาย ตั้งแต่ห้องพักแบบส่วนตัว, บ้านพัก ไปจนถึง Hostel และโรงแรม ในขณะที่การให้บริการก็ยังมีความยืดหยุ่น ทั้งสำหรับคนที่เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงคนที่กำลังมองหาที่พักในระยะเวลามากกว่า 1 เดือน ส่งผลให้มีความแตกต่างและหลากหลายอย่างมาก เมื่อเทียบกันกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในปัจจุบัน ที่สำคัญอัตราค่าบริการก็ยังมีความหลากหลาย ทำให้ไม่ว่าจะเป็นห้องพักที่เน้นความหรูหรา ทั้งจากการออกแบบและสิ่งอำนวยความสะดวก หรือแม้แต่ห้องพักราคาประหยัดที่เน้นความคุ้มค่า ก็ล้วนแล้วแต่มีเปิดให้บริการบนแพลตฟอร์มนี้ด้วยกันทั้งสิ้น

Airbnb มีความน่าสนใจอยู่ที่ระบบการทำงาน และแนวคิดในการให้บริการห้องพัก ซึ่งเป็นการที่ให้บุคคลทั่วไปสามารถปล่อยเช่าห้องพัก หรืออสังหาริมทรัพย์ที่ตนเองครอบครองอยู่ให้กับผู้อื่นได้ ผ่านการใช้งานแพลตฟอร์ม ที่เป็นเหมือนตัวกลางในการหาลูกค้าโดยตรง โดยที่ผู้ให้บริการห้องพักที่ต้องการปล่อยเช่า จะต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยและยื่นเอกสารมากมาย เพื่อให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ถึงคุณภาพของห้องพักและการบริการมากที่สุด รวมไปถึงในการชำระเงินก็ยังการันตีด้วยการรวบรวมและดูแลผ่านแพลตฟอร์มโดยตรง ช่วยให้ระหว่างลูกค้ากับเจ้าของที่พัก จะไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเกี่ยวกับความปลอดภัยระหว่างกันให้เสียเวลา ยิ่งไปกว่านั้นยังมีฝ่ายดูแลลูกค้า ที่คอยให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคอยตอบคำถามเกี่ยวกับการหาที่พัก, การชำระค่าบริการ หรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ซึ่งจะมีทีมช่วยเหลือคอยซัพพอร์ต หากผู้ให้บริการไม่สามารถตอบคำถามได้ในทันที และในการตอบคำถามก็ยังสามารถรองรับได้ถึง 11 ภาษาอีกด้วย อย่างไรก็ตามในมุมของผู้ให้บริการห้องพัก Airbnb ก็ยังมีเงื่อนไขคุ้มครองความเสียหายสำหรับชดใช้ ในกรณีที่ห้องพักของคุณเกิดความเสียหายจากผู้เข้าพักอาศัย ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจของตัวแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน

จากหลักการให้บริการและโครงสร้างของการมองหาห้องพัก ที่แตกต่างจากเว็บไซต์จองโรงแรม หรือแพลตฟอร์มให้บริการห้องพักอื่น ๆ ทำให้ Airbnb มีข้อได้เปรียบในเรื่องของอัตราค่าบริการ ที่มักจะต่ำและย่อมเยามากกว่า เมื่อเทียบกันกับการจองห้องพักจากโรงแรมโดยตรง ดังนั้น จึงได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคนที่เน้นการพักระยะยาว เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณประหยัดได้มากขึ้นแล้ว ก็ยังมีการเลือกเช่า Airbnb รายเดือน ที่เปิดให้บริการเป็นตัวเลือกด้วยนั่นเอง นอกจากนี้ด้วยการร่วมกันระหว่างตัวแพลตฟอร์มกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ มากมาย ก็ทำให้ในปัจจุบันมีบัตรเครดิตและช่องทางการชำระเงินทั่วโลก ที่มีการเสนอโปรโมชั่นและส่วนลดที่น่าสนใจ หากคุณใช้จ่ายในการจองห้องพักกับตัวแพลตฟอร์มโดยตรง ส่งผลให้เป็นอีกหนึ่งข้อดีสำหรับคน ที่จะต้องเดินทางหรือชื่นชอบการไปพักผ่อนบ่อย ๆ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็มักจะมีบัตรเครดิตสำหรับการท่องเที่ยวไว้ใช้งานอยู่แล้วด้วยนั่นเอง

หากคุณกำลังกังวลว่า Airbnb เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกกฏหมายของประเทศไทยหรือไม่ จากลักษณะการให้บริการที่แตกต่าง และข้อจำกัดที่ไม่เหมือนกับรายอื่น ๆ ซึ่งสำหรับเรื่องนี้คุณไม่จำเป็นจะต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย เพราะหลังจากที่แพลตฟอร์มมีการเปิดให้บริการยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ประเทศเหล่านั้นก็ได้มีการออกกฎหมายมาเพื่อรองรับการให้บริการ และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ที่ก็รวมถึงประเทศไทยของเราด้วยเช่นกัน โดยที่ข้อจำกัดนั้นจะครอบคลุมทั้งเรื่องของระยะเวลาการเข้าพัก ที่จะมีการกำหนดแตกต่างกันออกไปตามแต่ละประเทศ เช่น ไม่เกิน 90 วันต่อปีสำหรับประเทศอังกฤษ, ไม่เกิน 180 วันต่อปีในประเทศญี่ปุ่น หรือจำเป็นจะต้องปล่อยเช่าอย่างน้อย 30 วันที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น และนอกจากเรื่องนี้แล้วในบางประเทศ ก็ยังกำหนดเกี่ยวกับช่วงระยะเวลาที่เปิดให้บริการ เพื่อไม่ให้กระทบต่อธุรกิจที่มีการจดทะเบียนเป็นโรงแรมโดยตรง เช่น โตเกียวที่จะให้สามารถเปิดให้เช่าได้เพียงช่วงมกราคมถึงมีนาคม สำหรับพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะเท่านั้น เป็นต้น

ในประเทศไทย Airbnb ยังไม่ได้มีกฎหมาย ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุมโดยเฉพาะ แต่จะยังถูกรวมไปในข้อจำกัดของ พ.ร.บ. ควบคุมอาคารในปี 2522 และ พ.ร.บ. โรงแรมในปี 2547 ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปว่าเจ้าของหรือผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมไม่สามารถนำห้องมาปล่อยเช่ารายวันได้ เนื่องจากผิดกฎหมายจากการไม่ได้จดทะเบียนเป็นโรงแรม แต่หากปล่อยเช่าต่ำกว่า 4 ห้อง ก็ยังถือว่าไม่ถูกจัดเป็นโรงแรมด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงน่าจะขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของคอนโดมิเนียมแต่ละแห่งมากกว่า ว่าให้เราสามารถซื้อและนำมาปล่อยเช่าใน Airbnb ได้หรือไม่ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ปัญหา สำหรับสถานที่ที่ตั้งอยู่บริเวณแหล่งท่องเที่ยว ที่ก็มีห้องพักเปิดบริการให้เราพบเห็นกันได้มากมายนั่นเอง

จากที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า Airbnb มีการเปิดให้บริการทั้งบนเว็บไซต์และแอพจองที่พัก Airbnb ทำให้การค้นหาและจองห้องพักเป็นเรื่องที่ทำได้สะดวกสบายอย่างมาก ด้วยการพิมพ์ในช่องค้นหาที่คุณจะต้องเริ่มต้น ด้วยการค้นหาจากพื้นที่เข้าพัก, ช่วงเวลาการเข้าพัก และจำนวนผู้เข้าพัก โดยหากต้องการให้คุณสามารถค้นหาผลลัพธ์ได้ดีมากยิ่งขึ้น คุณยังสามารถใช้การปรับเปลี่ยนฟิลเตอร์ต่าง ๆ หลังจากที่ใช้งานระบบการค้นหาได้ด้วยเช่นกัน โดยในด้านของการแสดงผลนั้น ระบบจะมีการเลือกห้องพักที่เข้ากับความต้องการของคุณมากที่สุด ซึ่งคุณจะสามารถทำการเรียงลำดับผลลัพธ์ตามราคาค่าบริการหรือการรีวิวได้ ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจและเปรียบเทียบได้ง่าย แพลตฟอร์มนี้ยังมีระบบเลือกเปลี่ยนสกุลเงิน ให้เป็นในรูปแบบที่คุณต้องการ และเลือกปรับการแสดงผลค่าบริการ ในลักษณะของรายวันหรือรวมเป็นยอดสุทธิก่อนหักภาษีได้อีกด้วย

การจองห้องพักรูปแบบต่าง ๆ บน Airbnb คอนโด, บ้านพัก หรือแม้แต่โรงแรม คุณจะต้องสมัครสมาชิกเพื่อเป็นการยืนยันตัวตน ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัย ที่ทำให้ได้รับประโยชน์ทั้งสำหรับผู้ให้บริการปล่อยเช่าห้องพักและลูกค้า โดยจะแตกต่างจากการจองห้องพักในบางรูปแบบ ที่คุณจะสามารถทำการจองได้ในทันที แบบไม่ต้องสมัครสมาชิกหรือให้ข้อมูลส่วนตัวมากนัก และหากคุณไม่มีบัญชีของแพลตฟอร์ม เมื่อทำการกดเลือกจองห้องพักระบบก็จะนำคุณเข้าสู่หน้าการสมัครสมาชิกแบบอัตโนมัติ ที่ให้คุณสามารถเริ่มต้นและจองห้องพักจนเสร็จสิ้นได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณยังจะสามารถใส่ข้อมูลเพิ่มเติมต่าง ๆ ทั้งข้อมูลส่วนตัวและการชำระเงิน เพื่อให้สามารถใช้งานในครั้งต่อไปได้สะดวก หรือรับส่วนลดต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วยในเวลาเดียวกัน

นอกจากที่เราได้กล่าวไปเกี่ยวกับบริการพื้นฐานแล้ว การจองที่พัก Airbnb ยังมีบริการที่เฉพาะยิ่งขึ้นอย่าง Airbnb Plus และ Airbnb Luxe ให้เราเลือกใช้ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว Airbnb Luxe จะเน้นการรวบรวมและแนะนำที่พัก ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการระดับสูง โดยจะมีการยืนยันที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ภายใต้มาตรฐานของบริษัทและการควบคุมคุณภาพของ Airbnb แต่สำหรับ Airbnb Plus จะไม่ได้เน้นไปที่ห้องพักที่ความหรูหราหรืออยู่ในระดับไฮเอนด์เสมอไป แต่จะเป็นตัวเลือกของที่พักที่มีคุณภาพ และได้รับรีวิวที่ยอดเยี่ยมจากผู้เข้าพักจริง ทำให้มีการติดแท็ก Plus ไว้บนหน้าแสดงผล เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น หมายความว่าความแตกต่างระหว่าง Luxe และ Plus ก็คือการยืนยันจากทางแพลตฟอร์มและผู้ใช้งานจริงนั่นเอง

ในการจ่ายเงินเพื่อจองห้องพักกับทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น Airbnb กรุงเทพ, Airbnb ญี่ปุ่น หรือแม้แต่สถานที่ใดก็ตาม นอกจากการจ่ายเงินค่าห้องพักที่เป็นพื้นฐานแล้ว ตัวแพลตฟอร์มจะมีการเก็บค่าบริการพื้นฐาน ซึ่งสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 14.2 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ผู้ให้บริการปล่อยเช่าห้องพัก ก็ยังจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ที่เกิดขึ้นมา 3 เปอร์เซ็นต์ ในการทำธุรกรรมแต่ละครั้งบนแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน แต่นอกจากนี้หากมีการเสนอการให้บริการด้านอื่น ๆ ก็ยังมีโอกาสที่ผู้ให้บริการห้องพัก อาจจำเป็นจะต้องเสียค่าบริการที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนสิ่งที่ใช้สำหรับการกำหนดราคาของห้องพักนั้น จะมีปัจจัยสนับสนุนที่แตกต่างกันในส่วนต่าง ๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่ระดับคุณภาพของที่พัก, สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไปจนถึงสถานที่หรือทำเลที่อยู่ของห้องพัก โดยที่ราคาก็ยังอาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับสถานที่ที่ได้รับความนิยมหรือหาห้องพักได้ยากเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน

สำหรับ Airbnb นั้นจะให้ความสำคัญในการดูแลผู้ใช้บริการทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของที่พักที่มาเปิดให้บริการเช่าห้องพักบนแพลตฟอร์ม หรือแม้แต่ลูกค้าที่จะต้องเข้าใช้บริการห้องพักก็ตาม ส่งผลให้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุดด้วยกันทั้งสิ้น โดยสิ่งที่จะดูแลและปกป้องอย่างเป็นมาตรฐานในการดูแลความปลอดภัยนั้น จะมีตั้งแต่การป้องกันการข่มขู่, การใช้ความรุนแรง หรือการละเมิดสิทธิต่าง ๆ ที่ถือเป็นเรื่องพื้นฐานทั่วไป ไปจนถึงการพกพาและป้องกันการใช้อาวุธ ที่อาจเกิดขึ้นจากการพกพาของลูกค้าที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งลูกค้าจะต้องทำการติดต่อผู้ให้บริการปล่อยเช่าห้องพัก หากมีเงื่อนไขพิเศษที่จะต้องเกิดขึ้นในระหว่างการเข้าพักนั่นเอง

ในส่วนของเจ้าของที่พักก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการเข้าพักของลูกค้า หรือยกเลิกการจองที่เกิดขึ้นได้ หากผู้เข้าพักทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ หรืออาจมีผลต่อความปลอดภัยของเจ้าของ ซึ่งในส่วนนี้ผู้ให้บริการปล่อยเช่าห้องพักจะสามารถตรวจสอบได้จากโปรไฟล์ ในการเข้าพักก่อนหน้าที่ลูกค้ารายนั้น ๆ เคยใช้บริการ และการยืนยันตัวตนของผู้เข้าพัก ที่จะมีการแสดงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สามารถตรวจสอบและตัดสินใจได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามตัวแพลตฟอร์มยังมีโปรแกรม “top to bottom protection” ที่เป็นรูปแบบของการคัดกรองและรับประกันความเสียหาย หรือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับห้องพักเป็นจำนวนเงินที่สูงสุดถึง 3 ล้านดอลลาร์ ที่ผู้ให้บริการห้องพักจะสามารถทำการติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับกรณีที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นกับห้องพักของตัวเองอีกด้วย

ในปัจจุบัน Airbnb ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี และสามารถแข่งขันได้กับแพลตฟอร์มจองที่พักต่าง ๆ เช่น Agoda, Booking.com หรือ Trip.com และมีเจ้าของที่พักมากมายที่เข้าร่วมให้บริการห้องพัก จนทำให้ตัวเลือกของห้องพักเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงยังมีนักลงทุนเป็นจำนวนไม่น้อย ที่ถึงขั้นเลือกสร้างห้องพักขึ้นมาใหม่ เพื่อเปิดลงทุนให้บริการกับทางแพลตฟอร์มโดยเฉพาะเลยทีเดียว โดยที่ลูกค้าส่วนใหญ่นั้นจะมีทั้งคนที่เป็นชาวต่างชาติ และชาวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งมักจะเป็นกลุ่มที่มองหาบริการ ที่มีความแตกต่างจากแพลตฟอร์มจองโรงแรมทั่วไป และต้องการความเป็นส่วนตัวกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่มากขึ้น หมายความว่าในภาพรวมก็ยังถือเป็นเว็บไซต์และแอปจองห้องพัก ที่น่าจะมีผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยแน่นอน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Airbnb เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ และได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ จากการเปิดให้บริการกับทุกพื้นที่ทั่วโลก ด้วยความปลอดภัยและคุณภาพระดับสูงสุด รวมไปถึงยังมีจุดเด่นอีกมากมาย และยังมีอัตราค่าบริการที่ย่อมเยา ทำให้การวางแผนพักผ่อนในทุกเทศกาล ก็ยังจะทำได้ด้วยงบประมาณที่ประหยัดลงมาได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่หากคุณไม่ได้ต้องการที่พักที่เน้นสิ่งอำนวยความสะดวก หรือกำลังเน้นการมองหาห้องพักแบบรายวัน และอพาร์ทเมนต์หรือหอพักที่เป็นลักษณะรายเดือน Renthub ก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจมากมาย ให้คุณสามารถลองพิจารณาได้ด้วยเช่นกัน ด้วยการเป็นเว็บไซต์อันดับ 1 ในการค้นหาหอพักหรืออพาร์ทเมนต์ในประเทศไทย และมีหอพักให้คุณเลือกให้บริการได้มากกว่า 16,000 แห่งทั่วประเทศ ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งเราก็เชื่อว่าตัวเลือกของเว็บไซต์ของเรา ก็น่าจะทำให้คนที่มองหาหอพักไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน