ใครที่กำลังจะย้ายเข้าไปอยู่ในหอพักแห่งใหม่บ้างยกมือขึ้น! ซึ่งการย้ายเข้าหอพักแห่งใหม่นั้นนอกจากคุณจะต้องอ่านรายละเอียดภายในสัญญาเช่าให้ชัดเจนแล้ว มันก็ยังมีอีก 9 จุด ที่คุณจะต้องตรวจเช็คให้ดี เพื่อไม่ให้ตัวคุณเองต้องโดนค่าปรับจากเจ้าของหอพักในตอนที่คุณย้ายออก โดย 9 จุดที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้าง เราไปดูลิสต์ทั้ง 9 จุด ที่คุณจะต้องตรวจเช็คก่อนเข้าอยู่อาศัยภายในหอพักแห่งใหม่พร้อมๆ กันเลย
1.ผ้าม่าน
อันดับแรกให้คุณตรวจเช็คเลยว่าผ้าม่านของทางหอพักมีคราบสิ่งสกปรกตรงไหนบ้าง ? มีร่องรอยการขาดหรือชำรุดในบริเวณใด ? จากนั้นให้คุณถ่ายรูปหรือวิดีโอที่แสดงวันที่เก็บไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่ารอยต่างๆ เกิดขึ้นมาก่อนที่คุณจะเข้ามาอยู่
2.เตียงนอน/ฟูกที่นอน
ลำดับต่อมาให้คุณตรวจเช็คเลยว่าเตียงนอน/ฟูกที่นอนมีสภาพเป็นอย่างไร ? มีคราบสกปรกฝั่งแน่นหรือไม่ ? ถ้ามี มีตรงบริเวณใด ? เพื่อแจ้งให้กับเจ้าของหอพักรับทราบและรีบทำการเปลี่ยนที่นอนใหม่ให้กับคุณ
3.ลูกบิดประตู/ประตูระเบียง/รางประตู
หากคุณพบว่าลูกบิดประตู/ประตูระเบียง/รางประตูมีการชำรุด! ให้คุณถ่ายรูปหรือวิดีโอที่แสดงวันที่เก็บไว้ จากนั้นให้คุณแจ้งกับทางเจ้าของหอพักเพื่อให้มาแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เพราะเรื่องของประตูห้อง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญและส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในการพักอาศัยนั่นเอง อีกทั้งถ้าเจ้าของหอพักมีการเรียกเก็บค่าซ่อมแซม ก็ให้คุณแสดงหลักฐานไปเลยว่า การชำรุดที่เกิดขึ้นนั้นมันเกิดขึ้นมาก่อนที่คุณจะเข้ามาอยู่อาศัย
4.หน้าต่าง
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเข้าอยู่อาศัยภายในหอพัก เราก็ขอให้คุณตรวจเช็คเลยว่าหน้าต่างห้องของคุณสามารถล็อกได้หรือไม่ ? มีรอยร้าวของกระจกตรงไหนหรือเปล่า ? ซึ่งถ้าการชำรุดไม่ได้ส่งผลต่อการใช้งาน ก็ให้คุณถ่ายรูปหรือวิดีโอที่แสดงวันที่เก็บไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่ารอยแตกต่างๆ เกิดขึ้นมาก่อนที่คุณจะเข้ามาอยู่อาศัย
5.โต๊ะทำงาน/เก้าอี้
สิ่งที่ทำให้หลายๆ คน ต้องพบเจอกับค่าปรับกันอยู่เป็นประจำเลยก็คือ “โต๊ะทำงาน/เก้าอี้” ที่เจ้าของหอพักมักจะบอกว่าเรานั่นแหละเป็นคนที่ทำให้เกิดรอยต่างๆ ดังนั้นก่อนการเข้าอยู่อาศัยให้คุณถ่ายรูปหรือวิดีโอโต๊ะทำงานและเก้าอี้ทุกซอกทุกมุมเก็บไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่ารอยต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวคุณ
6.เฟอร์นิเจอร์ Built-in
สิ่งที่คุณจะต้องเตรียมเช็คในลำดับถัดมาก็คือ “เฟอร์นิเจอร์ Built-in” ไม่ว่าจะเป็น ตู้เสื้อผ้า ชั้นเก็บรองเท้า เตียง ฯลฯ ก็ให้คุณถ่ายรูปหรือวิดีโอที่แสดงวันที่เก็บไว้ ว่าสภาพโดยรวมเป็นอย่างไร ? มีจุดชำรุดตรงไหนบ้าง ? เพื่อใช้เป็นหลักฐานในตอนที่คุณย้ายออก ว่าคุณไม่ได้เป็นผู้ที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in เกิดการชำรุด
7.เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์, เครื่องทำน้ำอุ่น
สิ่งที่คุณต้องตรวจเช็คให้แน่ใจอีกหนึ่งอย่างก็คือ “เครื่องใช้ไฟฟ้า” โดยให้คุณเปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้องพักให้ครบ ละตรวจเช็คดูว่าใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ ? อีกทั้งตรวจดูในสัญญาเช่าว่าถ้าหากเครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดการชำรุด ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ?
8.ตำหนิของผนังห้อง
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องตรวจเช็คให้ดี ถ้าไม่อยากจะต้องเจอกับค่าปรับในตอนที่ย้ายออกเลยก็คือ “ตำหนิของผนังห้อง” ว่ามีตรงจุดไหนบ้างที่สีลอก ? หรือมีรอยขีดข่วนต่างๆ ซึ่งถ้าหากคุณตรวจพบแล้ว ก็ให้คุณถ่ายรูปหรือวิดีโอที่แสดงวันที่เก็บไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในตอนที่คุณกำลังจะย้ายออก และจะได้ไม่ต้องโดนค่าปรับในส่วนนี้
9.ภายในห้องน้ำ เช่น ชักโครก, อ่างล้างหน้า, ก๊อกน้ำ
สิ่งสุดท้ายที่คุณจะต้องตรวจเช็คให้ละเอียดเลยก็คือ “สิ่งของภายในห้องน้ำ” อาทิเช่น ชักโครก, อ่างล่างหน้า, ก๊อกน้ำ ฯลฯ ว่ามีการชำรุดหรือแตกหักตรงไหนบ้าง ? เพื่อให้เจ้าของหอพักมาทำการซ่อมแซมให้กับคุณก่อนการเข้าอยู่อาศัย อีกทั้งอย่าลืมถ่ายรูปหรือวิดีโอที่แสดงวันที่เก็บไว้ด้วยล่ะ
ทำไมถึงต้องถ่ายรูปหรือวิดีโอที่แสดงวันที่เก็บไว้ ?
จากข้อมูลที่เราได้กล่าวไปเมื่อข้างต้น คุณคงจะสงสัยว่าทำไมจะต้องถ่ายรูปหรือวิดีโอที่แสดงวันที่เก็บไว้ด้วย ? ซึ่งที่เราให้คุณถ่ายภาพหรือวิดีโอเก็บไว้ก็เพราะว่า คุณจะได้นำรายละเอียดในส่วนนี้มาใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นความผิดของคุณ การชำรุดหรือรอยต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมันเกิดขึ้นมาก่อนที่คุณจะย้ายเข้ามาอยู่อาศัย และคุณจะได้ไม่ต้องโดนค่าปรับในตอนที่ย้ายออกจากหอพักนั่นเอง
สำหรับใครที่กำลังจะย้ายเข้าหอพักใหม่ คุณก็อย่าลืมที่จะตรวจเช็คทั้ง 9 จุด ที่เราได้กล่าวไป รวมไปถึงอย่าลืมเช็ครายละเอียดภายในสัญญาเช่า เพื่อที่ว่าการย้ายเข้าหอพักใหม่ของคุณในครั้งนี้จะได้ไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง และสำหรับใครที่กำลังมองหาหอพักแห่งใหม่อยู่ล่ะก็ คุณสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Renthub เพื่อหาหอพักที่ใช่ เพียงใช้แค่ปลายนิ้ว โดยคุณสามารถเข้าไปโหลดได้ที่ > Renthub App