การสัมภาษณ์งานเป็นขั้นตอนสำคัญในการคัดเลือกผู้สมัครเข้าทำงาน โดยผู้สัมภาษณ์จะถามคำถามต่างๆ เพื่อประเมินทักษะ ความรู้ ประสบการณ์และทัศนคติของผู้สมัครว่าตรงกับความต้องการและบริบทของบริษัทหรือไม่ ? ซึ่งถ้าใครที่เคยผ่านการสัมภาษณ์งานมาแล้ว ก็คงจะพอรู้แนวทางว่าคำถามที่ต้องเจอจะมาในรูปแบบไหน ?
แต่สำหรับน้องๆ นักศึกษาที่พึ่งเรียนจบ และกำลังจะก้าวเข้าสู่วัยทำงานอย่างเต็มตัว วันนี้ทีมงาน Renthub ก็ขอนำคำถามสัมภาษณ์งาน ที่ First Jobber จะต้องเจอมาฝาก เพื่อที่ว่าน้องๆ จะได้รู้แนวทางและเตรียมตัวให้พร้อมในการสัมภาษณ์งานที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าว่าคำถามสัมภาษณ์งานที่ First Jobber จะต้องเจอ มีคำถามอะไรบ้าง ? และควรที่จะตอบคำถามไปในทิศทางไหน ? ที่จะทำให้น้องๆ ได้ใจผู้สัมภาษณ์และได้งานตามที่ใจปรารถนา
1. แนะนำตัวเอง
สิ่งแรกที่น้องๆ จะต้องเจอในการสัมภาษณ์งานเลยก็คือ “การแนะนำตัว” โดยรายละเอียดในส่วนนี้น้องๆ ควรจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 นาที เท่านั้น ซึ่งคำตอบจะต้องกระชับและได้ใจความ ไม่ต้องยืดเยื้อและไม่ต้องบอกดีเทลรายละเอียดที่มากจนเกินไปหากผู้สัมภาษณ์ไม่ได้ถาม โดยส่วนใหญ่แล้วจะแนะนำตัวเองเบื้องต้นเพียงแค่ “สวัสดีค่ะ/ครับ ชื่อ ...นามสกุล ... ชื่อเล่น ... จบจากมหาวิทยาลัย ... คณะ ... สาขา ... เกรดเฉลี่ย ... (ถ้าเกรดไม่ดีก็ไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้) ผลงานหรือกิจกรรมเด่นๆ ที่เคยทำในสมัยเรียน” ซึ่งหลังจากนั้นผู้สัมภาษณ์ก็จะถามคำถามถัดไปตามลำดับ
2. รู้จักบริษัทของเราไหม ?
คำถามสัมภาษณ์งานคำถามนี้เป็นคำถามที่น้องๆ จะต้องเจออย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งที่น้องๆ จะต้องทำก่อนไปสัมภาษณ์งานเลยก็คือ “การหาข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวบริษัท” เช่น บริษัทเปิดมาแล้วกี่ปี ? ทำธุรกิจประเภทใด ? มีบริการหรือสินค้าตัวไหนที่โดดเด่นติดตลาด ? วิสัยทัศน์ ภาพลักษณ์องค์กรเป็นอย่างไร ? ฯลฯ เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์มองเห็นถึงการเตรียมตัวที่ดีและความมุ่งมั่นตั้งใจของน้องๆ ที่อยากจะเข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้
3. ทำไมถึงตัดสินใจยื่นสมัครงานมาที่บริษัทของเรา ?
สำหรับคำถามสัมภาษณ์งานในข้อนี้จะสืบเนื่องมาจากข้อที่ 2 โดยให้น้องๆ ตอบคำถามในเชิงบวกและมีเหตุมีผล ยกตัวอย่างเช่น “พอดีว่าผมเคยได้ยินชื่อเสียงของบริษัทในแวดวงโฆษณามาพอสมควรครับ พอรู้ข่าวว่าทางบริษัท...ได้เปิดรับตำแหน่ง... เลยรีบยื่นเรซูเม่เข้ามาสมัครเลย เพราะผมมองว่าบริษัทแห่งนี้จะช่วยทำให้ผมได้ความรู้ ได้ทักษะใหม่ๆ และเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานให้กับตัวผมได้ และผมยังมองว่าตำแหน่งที่เปิดรับเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างจะเหมาะสมกับความสามารถของผมครับ”
4. ทำไมถึงคิดว่าตัวเองเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ?
ผู้สัมภาษณ์จะเริ่มสแกนน้องๆ ว่าเหมาะสมกับตำแหน่งที่สมัครมาหรือไม่ในคำถามนี้ ซึ่งน้องๆ จะต้องอ่านรายละเอียดงานของตำแหน่งที่สมัครมาให้ดี เพื่อที่จะได้บอกว่าเรามีความเหมาะสมกับตำแหน่งอย่างไร ? ไม่ว่าจะเป็น คิดว่าตัวเองถนัดและมีความสามารถในตำแหน่งนี้, เคยฝึกงานและมีประสบการณ์ในตำแหน่งนี้มาก่อน,อ่านรายละเอียดเนื้องานแล้วรู้สึกตรงกับที่ตามหา, เรียนจบสายงานด้านนี้มาโดยตรง, มีความชื่นชอบในตำแหน่งนี้เป็นทุนเดิมและคิดว่าจะทำงานออกมาได้ดีหากได้รับตำแหน่ง เป็นต้น
5. บอกจุดอ่อน/จุดแข็งของตัวเองให้ฟังหน่อย
98% น้องๆ จะต้องเจอกับคำถามสัมภาษณ์งานคำถามนี้อย่างแน่นอน โดยทริคเล็กๆ ในการตอบคำถามเรื่องจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเองเลยก็คือ...
จุดอ่อน : บอกจุดอ่อนที่ยังคงแอบแฝงไปด้วยข้อดี หรือ จุดอ่อนที่ได้รับการแก้ไขแล้ว เช่น “จุดอ่อนของผมคือ...ผมคิดว่าตัวผมเองยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการทำงานครับ ซึ่งถ้าผมได้รับโอกาส ผมก็มองว่าจุดอ่อนในจุดนี้ก็จะค่อยๆ ได้รับการแก้ไขครับ” หรือ “จุดอ่อนของผมคือ ภาษาอังกฤษครับ แต่ตอนนี้ผมกำลังหาครอสเรียนภาษาอังกฤษอยู่ครับ/ตอนนี้ผมกำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ครับ”
จุดแข็ง : สำหรับการบอกจุดแข็ง เราจะเปรียบเทียบให้น้องๆ เห็นภาพเลยก็คือ บอกจุดแข็ง = บอกข้อดีของตัวเอง แต่ไม่ควรที่จะโอ้อวดจนเกินไป เพราะน้องๆ อย่าลืมว่าผู้สัมภาษณ์เขามองออกว่าเราประดิษฐ์คำพูดหรือพูดออกมาจากความจริงใจ ดังนั้นน้องๆ คิดว่าตัวเองมีข้อดี มีจุดแข็งในการทำงานอย่างไร ก็ให้บอกเขาไปตรงๆ รวมไปถึงจุดแข็งที่จะนำมาพูดนั้นควรเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่น้องๆ สมัครไปด้วย เช่น “ผมเป็นคนที่ติดตามเทรนด์โลกใหม่ๆ กระแสโซเชียลต่างๆ อยู่เสมอครับ และผมมองว่าจุดแข็งตรงนี้จะสามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานในตำแหน่ง Content Creative ได้อย่างแน่นอน” หรือจะตอบแบบกลางๆ ก็ได้เช่นกัน เช่น “เป็นคนมองโลกในแง่บวกครับ ไม่ค่อยเครียดกับปัญหาต่างๆ ที่ต้องเจอในการทำงาน เพราะผมมองว่าสุดท้ายแล้วปัญหาทุกๆ อย่างก็จะผ่านไป แถมยังได้ประสบการณ์และบทเรียนใหม่ๆ จากปัญหาที่ได้เจอด้วยครับ”
6. มองภาพตัวเองในอนาคตในอีก 5 ปี เป็นอย่างไร ? หรือวางแผนการทำงานในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง ?
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ผู้สัมภาษณ์จะนำไปประกอบการพิจารณา โดยแนวทางคำตอบจะต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเจริญเติบโตในหน้าที่การงานและการที่จะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เช่น “ในอีก 5 ปีข้างหน้าหรือในอนาคตการทำงาน ผมมองว่าผมจะเป็นอีกคนหนึ่งที่มีทั้งความสามารถ ความรับผิดชอบและประสบการณ์ จนได้รับความไว้วางใจในการทำ Project ที่ใหญ่ขึ้น หรือสามารถสอนงานน้องๆ ในรุ่นต่อๆ ไปได้ครับ” หรือ “ตัวผมเองในอีก 5 ปี ข้างหน้า ผมมองว่าผมอาจจะเรียนจบปริญญาโท พร้อมกับนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้กับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จนทุกๆ คนให้การยอมรับในฝีมือการทำงานของผมครับ”
7. คิดว่าจะทำงานที่นี่นานไหม ?
ไม่มีบริษัทไหนที่อยากจะรับสมัครพนักงานใหม่บ่อยๆ เพราะฉะนั้นคำตอบในข้อนี้ให้น้องๆ แสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่อยากจะเข้ามาทำงานให้ผู้สัมภาษณ์ได้มองเห็น เช่น “ผมมีเป้าหมายที่จะทำงานในสายอาชีพนี้ต่อไปเรื่อยๆ ครับ เพราะผมเชื่อว่าบริษัท...จะสามารถพัฒนาทักษะความสามารถของตัวผมได้ และผมยังมองว่าบริษัท...จะช่วยทำให้ผมประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ด้วยครับ” ทั้งนี้ไม่ควรที่จะระบุว่าจะทำงานกี่ปี เพราะนั่นอาจจะทำให้ผู้สัมภาษณ์มองว่าน้องๆ ไม่ได้อยากจะทำงานที่นี่ในระยะยาวและอาจจะปัดตุ๊บไม่ให้น้องๆ ผ่านสัมภาษณ์เอาได้
8. หากเจอปัญหาต่างๆ ในการทำงานจะมีการแก้ไขอย่างไร ?
คำถามสัมภาษณ์งานในข้อนี้จะเป็นการวัด EQ ของน้องๆ ว่าสามารถควบคุมหรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร ? ทริคในการตอบคำถามง่ายๆ เลยก็คือ “ตอบให้เป็นเชิงบวก” เช่น “เมื่อเจอปัญหาผมจะค่อยๆ คลี่คลายไปทีละอย่างครับ หาต้นตอของปัญหาให้เจอ และนำปัญหาต่างๆ เหล่านั้นมาเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดเป็นความผิดพลาดในครั้งต่อๆ ไป” หรือ “ผมจะค่อยๆ แก้ไขปัญหาอย่างใจเย็นครับ ค่อยๆ ดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันมาจากอะไร ? และใช้สติแก้ปัญหามากกว่าอารมณ์ครับ”
9. หากโดนวิจารณ์หรือโดนตำหนิมีวิธีการรับมืออย่างไร ?
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามวัด EQ ที่ First Jobber หลายๆ คน มักจะเจอ โดยทางผู้สัมภาษณ์จะดูว่าน้องๆ มีวิธีการรับมืออย่างไร ? ซึ่งคำตอบก็คงจะคล้ายๆ กับข้อที่ 8 ก็คือ “ตอบให้เป็นเชิงบวก” เช่น “หากเป็นการวิจารณ์หรือตำหนิในเชิงสร้างสรรค์ ที่ผมสามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานได้ ผมก็จะรับฟังและนำไปปรับใช้ครับ” หรือ “ผมมองว่าการโดนวิจารณ์หรือโดนตำหนิ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะบางทีเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันดีมากน้อยขนาดไหน ฉะนั้นเมื่อมีคนมาวิจารณ์หรือตำหนิด้วยเหตุด้วยผล ผมก็จะรับฟังและขอบคุณเขาครับ”
10. คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม ?
คำถามสัมภาษณ์งานในข้อนี้ถือได้ว่าเป็นคำถามในช่วงท้ายๆ ของการสัมภาษณ์งานแล้ว ซึ่งน้องๆ ควรที่จะตอบว่า “มี” เพื่อแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าน้องๆ มีความกระตือรือร้นและใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทนั่นเอง (เป็นคำถามทั่วๆ ไป หรือถามในสิ่งที่น้องๆ อยากจะรู้ได้เลย)
การสัมภาษณ์งานเป็นโอกาสที่ดีที่น้องๆ จะได้แสดงศักยภาพและความสามารถของตนเองให้ผู้สัมภาษณ์ได้เห็น ดังนั้นน้องๆ ควรเตรียมตัวและฝึกฝนการตอบคำถามสัมภาษณ์งานต่างๆ ตามที่เราได้กล่าวไป เพื่อที่น้องๆ จะได้ตอบคำถามได้อย่างมั่นใจ ชัดเจน จนทำให้มีโอกาสที่จะได้เข้าทำงานในบริษัทที่น้องๆ คาดหวัง และไว้โอกาสหน้าทีมงาน Renthub จะนำข้อมูลดีๆ อะไรมาฝากอีก น้องๆ ก็สามารถติดตามได้ที่ Renthub Blog : รวมบทความหอพัก อพาร์ทเม้นท์น่ารู้คู่ชาวหอ
และสำหรับใครที่ได้งานแล้ว และกำลังมองหาหอพักแห่งใหม่ที่อยู่ใกล้กับที่ทำงาน ก็สามารถเข้ามาค้นหาหอพักในย่านต่างๆ ได้ที่ Renthub เว็บไซต์ค้นหาหอพักอันดับ 1 ของประเทศไทย
ดาวน์โหลด Renthub App เพื่อให้การค้นหาหอพักของคุณเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้วได้ที่ > คลิก (รองรับทั้งระบบ IOS และ Android)