ภาษาอังกฤษได้กลายเป็นภาษาสากลที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงานหรือการไปเที่ยวต่างประเทศ ต่างก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักด้วยกันทั้งนั้น แต่สำหรับใครที่รู้ตัวว่าอ่อนเรื่องภาษาและยังไม่มีเวลาที่จะไปลงเรียนเพิ่มเติมก็ไม่ต้องเป็นกังวลใจไปนะคะ เพราะในปัจจุบันนี้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับฝึกภาษาอังกฤษออกมามากมาย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างสะดวกสบาย และก็แน่นอนค่ะว่าในวันนี้เราก็จะขอมาอัปเดต “แอปฯ ฝึกภาษาอังกฤษที่ควรมีติดมือถือ” ซึ่งแอปพลิเคชันฝึกภาษาอังกฤษแต่ละแอปฯ ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าแอปฯ ฝึกภาษาอังกฤษที่ควรมีติดมือถือจะมีแอปฯ อะไรบ้าง ?
Drops
Drops เป็นแอปพลิเคชั่นฝึกภาษาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกเหนือจากภาษาอังกฤษแล้ว แอปพลิเคชัน Drops ยังมีภาษาให้คุณได้เลือกฝึกมากกว่า 45 ภาษา ไม่ว่าจะเป็น ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลีและอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงยังมีมินิเกมที่จะช่วยทำให้คุณรู้สึกสนุกไปกับการฝึกฝนภาษา อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ตั้งค่าเวลาเรียนในแต่ละวันที่จะช่วยให้คุณสามารถติดตามความคืบหน้า และสร้างวินัยในการเรียนภาษาด้วยตัวเองไปในตัวอีกด้วย
: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Drops ได้ที่ IOS หรือ Android
Cake
แอปฝึกภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า “Cake” ก็ถือได้ว่าเป็นแอปพลิเคชั่นฝึกภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยภายในตัวแอปมีเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง และยังมีเนื้อหาให้คุณได้เลือกเรียนอยู่หลากหลายหมวด อาทิ คำศัพท์ ประโยค ไวยากรณ์ การออกเสียง วัฒนธรรมและอื่นๆ แต่เท่านั้นยังไม่พอนะคะ เพราะภายในแอปพลิเคชั่น Cake ยังมีเกมและกิจกรรมที่จะช่วยทำให้การเรียนภาษาอังกฤษและเกาหลีของคุณสนุกขึ้นแบบเท่าตัวเลยค่ะ
: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Cake ได้ที่ IOS หรือ Android
Speak – Practice Your English
สำหรับใครอยากจะพูดภาษาอังกฤษในสำเนียงที่ถูกต้องและดีขึ้น เราก็ขอแนะนำแอปฝึกภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า “Speak – Practice Your English” เลยค่ะ เพราะแอปพลิเคชั่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ ซึ่งจุดเด่นของ Speak – Practice Your English หลักๆ เลยก็คือ...
ภายในแอปฯ จะมีบทสนทนาในหัวข้อต่างๆ มากมาย โดยการสนทนาทั้งหมดจะบันทึกเสียงจากเจ้าของภาษา ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกพูดกับเจ้าของภาษาอย่างแท้จริง
ตัวแอปพลิเคชั่นมีระบบการจดจำเสียงที่ช่วยประเมินการออกเสียงของผู้เรียน หากออกเสียงได้ถูกต้องตัวอักษรในบทสนทนาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว หากออกเสียงได้ใกล้เคียงหรือพอใช้ตัวอักษรในบทสนทนาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณออกเสียงไม่ถูกต้องตัวอักษรในบทสนทนาจะเปลี่ยนเป็นสีแดง
มีหลากหลายฟีเจอร์ให้เลือกเรียน เช่น การฟัง การพูด และการอ่าน ช่วยให้ผู้เรียนสามารถฝึกทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างครบถ้วน
: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Speak – Practice Your English ได้ที่ IOS
Duolingo
แอปฯ ฝึกภาษาอังกฤษยอดนิยมที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ “Duolingo” ซึ่งเจ้าแอปพลิเคชั่นนี้เหมาะกับผู้ที่พึ่งเริ่มต้นฝึกภาษาอังกฤษเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ เพราะจะช่วยฝึกฝนคำศัพท์และไวยากรณ์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย อีกทั้งจุดเด่นของ Duolingo คือ...
มีภาพประกอบและเสียงประกอบที่จะช่วยทำให้คุณจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น
ปรับระดับความยากง่ายได้ตามความสามารถ
มีคลังคำศัพท์และไวยากรณ์ที่ครอบคลุม
มีระบบให้รางวัลและสะสมแต้ม เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
และจุดเด่นอื่นๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้นใครที่อยากเก่งภาษาอังกฤษ แอปฯ Duolingo ก็คงจะเป็นตัวช่วยชั้นดีของคุณได้เลยล่ะค่ะ
: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Duolingo ได้ที่ IOS หรือ Android
LingoClip
ใครที่เป็นคนขี้เบื่อบ้างยกมือขึ้น! ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่เบื่อง่าย แต่ก็อยากที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น เราก็ขอแนะนำ แอปพลิเคชัน “LingoClip” ซึ่งแอปฯ นี้เหมาะกับผู้ที่ชอบดูหนังฟังเพลงและขี้เบื่อแบบสุดๆ เนื่องจากแอปฯ LingoClip ถูกออกแบบมาเพื่อให้เราฝึกภาษาอังกฤษไปพร้อมๆ กับการดู MV เพลง และตัวอย่างหนัง โดยจะมีคำศัพท์, ประโยคและสำนวนภาษาอังกฤษที่สำคัญปรากฏขึ้นมาให้คุณได้เรียนรู้และเข้าใจบริบทของเนื้อหาใน MV หรือในหนังมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง LingoClip ยังมีภาษาอื่นๆ ให้เราได้เรียนรู้มากถึง 10 ภาษา(ที่นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ) ได้แก่ สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี โปรตุเกส รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และภาษาอาหรับ เรียกได้ว่าเป็นแอปฝึกภาษาที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์จริงๆ ซึ่งเราก็รับประกันเลยค่ะว่าแอปพลิเคชั่น LingoClip จะให้ทั้งความรู้และความบันเทิงกับคุณอย่างแน่นอน
: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LingoClip ได้ที่ IOS หรือ Android
Johnny Grammar Word Challenge
อีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นฝึกภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกเลยก็คือ “Johnny Grammar Word Challenge” ที่พัฒนาโดยบริษัท Johnny Grammar Games จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแอปพลิเคชันนี้จะช่วยพัฒนาทักษะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของคุณในด้านต่างๆ อาทิ การสะกดคำ, การเรียงลำดับคำ, การผันคำกริยา, การใช้ไวยากรณ์อย่างถูกต้อง อีกทั้งตัวแอปฯ ยังเหมาะสมกับทุกๆ คน ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนไปถึงระดับสูง ดังนั้นแอปพลิเคชั่น Johnny Grammar Word Challenge จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแอปฯ ฝึกภาษาที่ควรมีติดมือถือเอาไว้
: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Johnny Grammar Word Challenge ได้ที่ IOS หรือ Android
Andy
หากคุณรู้สึกประหม่าที่จะพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติหรือคุณครูคนไทย คุณก็คงจะต้องรีบดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Andy มาแบบด่วนๆ เพราะแอปพลิเคชั่นนี้เปรียบเสมือนการจำลองคุยกับเจ้าของภาษา แต่เป็น Ai Bot ที่ชื่อว่า Andy โดยคุณสามารถพูดคุยกับ Andy ได้อย่างอิสระเหมือนกับการพูดคุยกับคนแบบทั่วๆ ไป ส่งผลให้คุณได้ลองพูด ลองฟัง ลองอ่าน ได้โดยที่ไม่ต้องเขินว่าจะพูดผิดหรือถูก อีกทั้งภายในแอปฯ ยังมีเกม กิจกรรมและแบบฝึกหัดมากมายที่จะช่วยทำให้คุณได้ฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอีกด้วย
: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Andy ได้ที่ IOS หรือ Android
Quizlet
แอปพลิเคชั่น Quizlet เป็นแอปฯ ฝึกภาษาอังกฤษที่เน้นในด้าน "คำและความหมาย" เช่น คำในภาษาอังกฤษหรือคำศัพท์เฉพาะทางต่างๆ โดยนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานรู้สึกเบื่อหน่าย ซึ่งรูปแบบการเรียนการสอนหลักๆ ที่มีภายในแอปพลิเคชั่นประกอบไปด้วย
Learn : เรียนรู้คำศัพท์หรือข้อมูลใหม่ๆ
Flashcards : เรียนรู้โดยใช้แฟลชการ์ดแบบดั้งเดิม
Write : ฝึกการเขียนคำศัพท์
Spell : การฝึกสะกดคำศัพท์
Test : ทำแบบทดสอบเพื่อทดสอบความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์
Match : จับคู่คำศัพท์กับคำตอบที่ถูกต้อง
Gravity : เกมแบบโต้ตอบที่ผู้ใช้ต้องลากคำศัพท์ไปยังคำตอบที่ถูกต้อง
และด้วยความหลากหลายนี้เอง จึงทำให้แอปฯ ฝึกภาษาอังกฤษอย่าง Quizlet กลายเป็นแอปฯ ยอดนิยมแห่งยุค
: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Quizlet ได้ที่ IOS หรือ Android
การเรียนภาษาอังกฤษผ่านแอปพลิเคชั่นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย และเหมาะสมกับ Lifestyle การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญและจะทำให้คุณได้รับประโยชน์จากการใช้งานแอปฯ ฝึกภาษาอังกฤษเลยก็คือ “ความมีวินัยและสม่ำเสมอ” ค่ะ ดังนั้นคุณอาจจะต้องตั้งเวลาให้กับตัวเองซักหน่อย ว่าจะเข้าไปแอปฯ ฝึกภาษาอังกฤษในช่วงเวลาไหน ? ตั้งเวลาในการฝึกภาษาอังกฤษผ่านแอปฯ ไว้กี่นาทีต่อวัน ? เพราะถ้าหากไม่มีการตั้งเวลาหรือข้อกำหนดให้กับตัวเอง อยากเข้าแอปฯ ตอนไหนก็เข้า ฝึกผ่านๆ ไม่จริงจัง เราก็ขอบอกเลยค่ะว่า...ต่อให้แอปฝึกภาษาอังกฤษจะทำออกมาดีแค่ไหน คุณก็จะไม่ได้อะไรจากการเรียนรู้ผ่านแอปฯอย่างแน่นอน ฉะนั้นความมีวินัยความสม่ำเสมอจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้การฝึกภาษาอังกฤษผ่านแอปพลิเคชั่นของคุณเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ