“วัดอรุณราชวรมหาวิหาร” หรือที่คนไทยแบบเรา ๆ มักจะเรียกกันว่า “วัดอรุณฯ” ได้กลายเป็น Landmark สำคัญที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต่างต้องการมาสัมผัสความสวยงามอันวิจิตตระกาลตากันที่วัดแห่งนี้เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย และไม่ใช่เพียงแค่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้นนะคะที่ต้องการมาชมความงดงามภายในวัดอรุณฯ เพราะคนไทยหลาย ๆ คน ต่างก็ต้องการมาที่วัดแห่งนี้เช่นเดียวกัน ทั้งเพื่อชมความงดงามของสถาปัตยกรรมภายในวัด ไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์(มีความเชื่อว่ากันว่า ใครที่ได้มาไหว้พระขอพรกันที่วัดอรุณฯ ชีวิตจะรุ่งโรจน์ดุจรุ่งอรุณทุกคืนวัน) หรือแม้แต่การมาถ่ายรูปสวย ๆ เพื่อโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียตามช่องทางต่าง ๆ
และด้วยเหตุนี้เอง เราจึงจะขอพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวกันที่วัดอรุณราชวรมหาวิหารกันค่ะ และเท่านั้นยังไม่พอนะคะ เพราะว่าเราได้มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ พร้อมกับวิธีการเดินทางไปยังวัดอรุณฯ มาฝากอีกด้วย
ประวัติวัดอรุณราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร (หมายถึง พระอารามที่พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี สมเด็จพระยุพราช ทรงสร้างหรือปฏิสังขรณ์เป็นการส่วนพระองค์) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานครฯ ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาฯ เดิมชื่อว่า “วัดมะกอก” โดยมีเรื่องเล่าขานกันว่า...เมื่อพระเจ้าตาก (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ทรงนำกองทัพมาเพื่อเลือกชัยภูมิในการสร้างราชธานีใหม่ พระองค์เสด็จฯ ถึงวัดมะกอกในเวลารุ่งแจ้ง เมื่อทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี จึงทรงปฏิสังขรณ์พระอารามแห่งนี้และสถาปนาเป็นพระอารามหลวง พระราชทานนามว่า วัดแจ้ง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ซึ่งอัญเชิญมาจากเวียงจันทน์”
ครั้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ทรงสถาปนาพระอุโบสถและพระวิหารหลังใหม่ พร้อมทั้งอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรมาประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จพระองค์ก็เสด็จสวรรคต หลังจากนั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) จึงทรงดำเนินการปฏิสังขรณ์ต่อ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดอรุณราชธาราม” ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า วัดอรุณราชวราราม
ไฮไลท์ที่ห้ามพลาด! พระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลเข้ามา Check-in กันที่วัดอรุณฯ เลยก็คือ “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ที่ตั้งสูงสง่าอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งความสวยงามของพระปรางค์องค์นี้ก็เป็นอย่างที่รู้กันดีค่ะว่าสวยงามจนทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเก็บภาพความสวยงามกันอย่างไม่ขาดสาย โดยองค์พระปรางค์ประดับด้วยเปลือกหอย กระเบื้องเคลือบ จาน-ชามเบญจรงค์สีต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน โดยนำมาเนรมิตเป็นลวดลายของดอกไม้ ใบไม้นานาชนิด ที่มองกี่ครั้งก็สวยงามจนยากที่จะบรรยายออกมาจริง ๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีการประดับตกแต่งด้วย กินนร กินรี ยักษ์ เทวดาและพญาครุฑ ที่แสดงถึงความประณีตของช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญจนแสดงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ส่วนบริเวณยอดบนสุดของพระปรางค์ติดตั้งยอดนภศูลและมงกุฎปิดทองค่ะ
ทั้งนี้พระปรางค์วัดอรุณฯ มีความสูงจากฐานถึงยอดอยู่ที่ 81.85 เมตร ซึ่งถือว่าสูงมากเลยทีเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้วพระปรางค์องค์เดิมนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีความสูงเพียง 8 วา หรือ ประมาณ 16 เมตร ต่อมาในรัชกาลที่ 3 ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดอรุณฯ ใหม่หมดทั้งวัด จึงทำให้พระปรางค์มีความสูงเพิ่มขึ้นจากเดิมนั่นเอง
จุดไฮไลท์อื่น ๆ ที่น่าสนใจภายในวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
นอกเหนือจากองค์พระปรางค์ของวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารแล้ว ภายในวัดยังมีจุดที่เป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจอีกมากมายเลยล่ะค่ะ โดยเราขออนุญาตลิสต์ออกมาเป็นข้อ ๆ เพื่อที่เพื่อน ๆ จะได้มองเห็นภาพที่ชัดเจนและสามารถไปตามจุดไฮไลท์ต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน โดยจุดที่เพื่อน ๆ ต้องไปเมื่อไปวัดอรุณฯ จุดที่ 1 เลยก็คือ...
ยักษ์วัดแจ้ง : บริเวณซุ้มประตูทางเข้าพระอุโบสถจะมียักษ์ 2 ตน ยืนตระหง่านอยู่ ซึ่งยักษ์วัดแจ้งเป็นยักษ์ปูนปั้นประดับกระเบื้องเคลือบสี สูงประมาณ 8 เมตร ยักษ์ฝั่งซ้ายมีชื่อว่า "สหัสเดชะ" กายสีขาว มือขวาถือกระบอง มือซ้ายถือสังข์ ยักษ์ฝั่งขวามีชื่อว่า "ทศกัณฐ์" กายสีเขียว มือขวาถือตรีศูล มือซ้ายถือจักร โดยมีความเชื่อว่ากันว่าพญายักษ์ทั้งสองตนมีอำนาจและบารมีมาก สามารถปกป้องคุ้มครองวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารและผู้คนที่อยู่โดยรอบ ในปัจจุบันนี้พญายักษ์วัดแจ้งยังคงเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวที่มาเยือนวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารมักจะไม่พลาดที่จะแวะมาสักการะพญายักษ์คู่นี้
พระอุโบสถ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร : ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก พระประธานปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3 ศอกคืบ หล่อด้วยทองเหลือง สันนิษฐานว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงหล่อด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง นอกจากพระประธานแล้ว ภายในพระอุโบสถยังมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ประดิษฐานอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้พระอุโบสถยังมีสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ผสมผสานกับศิลปะตะวันตก จึงทำให้มีความสวยงามจนคุณต้องห้ามพลาดที่จะถ่ายรูปเก็บเอาไว้เลยล่ะ
พระวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร : พระวิหารวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวที่มาเยือนวัดอรุณฯ มักจะไม่พลาดที่จะมาแวะชมความงดงามของพระวิหารแห่งนี้ โดยมีสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์ผสมผสานกับศิลปะตะวันตก โดยนำเอาสถาปัตยกรรมแบบโกธิกมาใช้ เช่น ยอดแหลมของซุ้มประตูและหน้าต่าง เป็นต้น ภายในประดิษฐาน พระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตร พระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 6 ศอก นอกจากนี้บริเวณฐานชุกชีด้านหน้ายังมีพระพุทธรูปสำคัญคือ พระอรุณ หรือ พระแจ้ง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร มีประวัติว่าอัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ ประเทศลาว
พระแท่นพระเจ้าตากสินมหาราช : ภายในพระอุโบสถน้อยวัดอรุณฯ บริเวณผนังด้านหน้าทางเข้าพระอุโบสถน้อย เป็นที่ประดิษฐานพระแท่นบรรทมอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยมีความเชื่อกันว่า...หากได้ลอดพระแท่นนี้จะช่วยล้างอาถรรพ์ ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป หนุนดวงและเสริมบารมี ทำให้พบกับโชคดี ชีวิตมีแต่ความสุข ทั้งนี้มีการสันนิษฐานว่าโบสถ์น้อยเป็นโบสถ์เดิมของวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2310 ภายในประดิษฐาน หลวงพ่อรุ่งมงคล พระพุทธรูปศิลปะสมัยอยุธยาองค์ใหญ่และพระบรมรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
วิหารน้อย : วิหารน้อยหรือวิหารหลังเก่า มีการสันนิษฐานว่า...ถูกสร้างมาพร้อมกับโบสถ์น้อยในสมัยอยุธยาที่ตั้งอยู่ด้านข้าง โดยในปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐาน “พระจุฬามณีเจดีย์” เป็นพระเจดีย์ขนาดใหญ่หล่อด้วยโลหะ มีรูปปั้นท้าวจตุโลกบาลยืนเฝ้าพระเจดีย์อยู่ทั้ง 4 มุม อีกทั้งภายในยังมี “พระแท่นบรรทม พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” อยู่ด้านในวิหารน้อยอีกด้วย
ตุ๊กตาศิลาจีน : ภายในวัดอรุณฯ จะมีตุ๊กตาศิลาจีนเป็นจำนวนมากเลยล่ะค่ะ ซึ่งตุ๊กตาแต่ละตัวจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปทั้งนักบวช ผู้หญิง เด็ก ตัวงิ้วที่แต่งกายสวยงาม รูปสัตว์ต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย : บริเวณสวนหย่อมริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่ประทับยืนอยู่บนแท่นฐานหินอ่อนสีขาว ซึ่งการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ไว้ ณ ที่แห่งนี้ เนื่องจากพระองค์ท่านทรงมีความผูกพันและศรัทธาในวัดอรุณฯ เป็นอย่างยิ่งนั่นเองค่ะ (บริเวณใต้ฐานพระประธานในพระอุโบสถยังเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของท่านอีกด้วย)
ไอศกรีม 3 มิติ : ไอศกรีมลายกระเบื้องพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร จากร้าน Arun Cafe เป็นอีกจุดไฮไลท์ที่เพื่อน ๆ ไม่ควรพลาดค่ะ เพราะนอกจากรสชาติที่อร่อยชื่นใจแล้ว เจ้าไอกรีมนี้ยังได้รับความนิยมในการถ่ายภาพลงโซเชียลอีกด้วย (มี 2 รสชาติ คือ รสชาไทยและรสอัญชันกะทิอบควันเทียน)
จุดถ่ายรูปสุดฮิตภายในวัดอรุณราชวรมหาวิหาร
สำหรับจุดถ่ายรูปสุดฮิตภายในวัดอรุณราชวรมหาวิหารนั้น เราขอบอกเลยค่ะว่าเพื่อน ๆ สามารถ่ายได้ทุกที่ เพราะสวยทุกจุด! อีกทั้งในปัจจุบันนี้ผู้คนยังนิยมเช่าชุดไทยเพื่อมาถ่ายภาพสวย ๆ กันภายในวัดอีกด้วย
โดยเพื่อน ๆ สามารถเช่าชุดไทยได้ที่บริเวณร้านเช่าชุดที่เปิดให้บริการอยู่บริเวณด้านหน้าวัด ชอบร้านไหนก็สามารถเข้าไปเช่าได้เลย และในวันนี้เราก็มีไอเดียภาพถ่ายสวย ๆ ภายในวัดอรุณฯ มาฝาก รับรองเลยค่ะว่ายอด Like ถล่มทลายอย่างแน่นอน
เวลาเปิด - ปิด วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร คือช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก เนื่องจากพระปรางค์วัดอรุณจะสะท้อนแสงจากพระอาทิตย์ได้อย่างงดงามเป็นพิเศษค่ะ
วิธีการเดินทางไปวัดอรุณราชวรมหาวิหาร
การเดินทางไปยังวัดอรุณฯ นั้นมีอยู่หลากหลายทางให้เพื่อน ๆ ได้เลือกกันตามสะดวก แต่สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เพื่อความชัวร์เพื่อน ๆ สามารถเปิด Google Map (คลิก) ได้เลย ส่วนใครที่เดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ก็สามารถดูรายละเอียดด้านล่างที่เราสรุปไว้ให้ดังนี้
รถประจำทางสาธารณะ
ขึ้นรถประจำทางสาย 57 และ 710 ลงป้ายหน้าวัดอรุณ (มีรถเมล์ 2 สายเท่านั้นที่ผ่านป้ายหน้าวัดอรุณฯ )
รถไฟฟ้า (MRT)
ให้เพื่อน ๆ ลงสถานีสนามไชย ทางออกประตู 1 และเดินเลียบไปตามทางรถไปเรื่อย ๆ ไปทางวัดโพธิ์ จากนั้นขึ้นเรือข้ามฟากจากฝั่งพระนครบริเวณท่าเตียนไปยังท่าเรือวัดอรุณฯ ค่ะ
เรือ
รถยนต์ส่วนตัว
จากถนนปิ่นเกล้า : เลี้ยวเข้าถนนอรุณอมรินทร์ ผ่านหน้าโรงพยาบาลศิริราช ตรงมาเรื่อย ๆ ยังกรมอู่ทหารเรือ จะเห็นทางเข้าวัดอรุณฯ
ขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร : มุ่งหน้าไปทางสะพานพระราม 8 จากนั้นลงทางด่วนที่แยกวังเดิม เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนวังเดิม ขับตรงไปประมาณ 500 เมตร วัดอรุณราชวรมหาวิหารจะอยู่ทางซ้ายมือ
และไว้โอกาสหน้าเราจะพาไปเที่ยวและนำข้อมูลดี ๆ อะไรมาฝากอีก คุณก็สามารถติดตามได้ที่ Renthub Blog : บทความที่รวมทุก Lifestyle ของชาวหอพัก