Home Icon

HOME

LIFESTYLE

REVIEW

DECORATION

LAW

NEWS & EVENTS

NEWS

USER GUIDE

GUIDE

หาที่พักที่ RentHub

ปิดจบทุกข้อสงสัย TGAT TPAT คืออะไรนะ ?

BY
Vivian B.
โพสต์เมื่อ
14 June 2024
ปิดจบทุกข้อสงสัย TGAT TPAT คืออะไรนะ ?

คำถามที่ว่า “TGAT TPAT คืออะไร ?” คงจะเป็นคำถามที่น้อง ๆ และผู้ปกครองเกิดความสงสัยเพราะยังไม่คุ้นชินกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในรูปแบบนี้ การสอบTGAT TPAT ถือได้ว่าเป็นการสอบรูปแบบใหม่(ประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี 2566 เป็นครั้งแรก) และทำให้เกิดข้อสงสัยตามมาอีกว่า...จะต้องอ่านหรือเตรียมตัวอย่างไรในการสอบ TGAT TPAT ? ซึ่งในวันนี้เราก็ได้สรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการสอบ TGAT TPAT มาฝากค่ะ ซึ่งรับรองเลยว่าถ้าอ่านบทความนี้จบน้อง ๆ จะสามารถเตรียมตัวสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน และถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันดีกว่าว่าการสอบ TGAT TPAT มันคืออะไรกันแน่ ?

 

TGAT TPAT คืออะไร ?

TGAT TPAT คือ ระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในรูปแบบใหม่ ซึ่งมาจาก “ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย” หรือ ทปอ. ทั้งนี้เพื่อลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหาวิชาที่ใช้สอบในแต่ละสนาม โดยเน้นความรู้ที่ผู้สอบสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลลัพธ์ดีที่สุด ไม่ใช่แค่การท่องจำเพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีต

  • การสอบ GAT, PAT และ 9 วิชาสามัญ จะถูกยกเลิก และเปลี่ยนมาเป็น TGAT, TPAT และ A-Level แทน
  • TGAT TPAT สามารถเลือกได้ว่าจะสอบด้วยกระดาษหรือสอบด้วยคอมพิวเตอร์ (ยกเว้นการสอบ TPAT1 ข้อสอบความถนัดแพทย์ และ A-Level จะใช้ข้อสอบแบบกระดาษเพียงอย่างเดียว)
  • ไม่สามารถเลือกสอบแบบภาษาไทยหรืออังกฤษได้แล้ว
  • เพิ่มภาษาอังกฤษ, สเปน ในวิชา A-Level

 

TGAT คืออะไร ?

TGAT หรือ Thai General Aptitude Test เป็นข้อสอบวัดสมรรถนะการเรียนรู้ทั่วไป มีการปรับรายวิชามาจาก GAT เดิม แบ่งออกเป็น 3 พาร์ท คะแนนรวม 300 คะแนน ประกอบไปด้วย...

1. การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication)

การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication) เป็นพาร์ทการสอบ TGAT ที่เน้นการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวัน โดยข้อสอบจะเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก 100 คะแนน ระยะเวลาในการทำข้อสอบ 60 นาที โดยมีเนื้อหาที่ต้องสอบดังนี้

ทักษะการพูด (30 ข้อ)

  • การถาม-ตอบ (10 ข้อ)
  • เติมบทสนทนาแบบสั้น (10 ข้อ)
  • เติมบทสนทนาแบบยาว (10 ข้อ)

ทักษะการอ่าน (30 ข้อ)

  • เติมข้อความเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ (15 ข้อ)
  • อ่านเพื่อจับใจความ (15 ข้อ)

2. การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical and Logical Thinking)

การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking) เป็นการสอบที่เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ การเข้าใจ การวิพากษ์ข้อมูลข่าวสารโดยใช้เหตุผลเชิงปริมาณและการคิดอย่างมีตรรกะ มีเป็นข้อสอบแบบปรนัย 5 ตัวเลือก คะแนนเต็ม 100 คะแนน ระยะเวลาในการทำข้อสอบ 60 นาที ซึ่งการสอบ TGAT 2 แบ่งออกเป็น 4 พาร์ท ดังนี้

  • ความสามารถทางภาษา (ภาษาไทย) : เน้นการสื่อความหมาย การใช้ภาษา การอ่าน การเข้าใจภาษา (20 ข้อ)
  • ความสามารถทางตัวเลข (คณิตศาสตร์) : เน้นการเปรียบเทียบเชิงปริมาณ อนุกรมมิติ ความเพียงพอของข้อมูลและโจทย์ปัญหา (20 ข้อ)
  • ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ (คณิตศาสตร์) : เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาและใช้ตรรกะ เกี่ยวกับรูปทรง (20 ข้อ)
  • ความสามารถทางเหตุผล (ภาษาไทย + คณิตศาสตร์ ) : เน้นการสรุปความ วิเคราะห์ข้อความ อุปมาอุปไมย อนุกรมภาพ (20 ข้อ)

3. สมรรถนะด้านการทำงานในอนาคต (Future Workforce Competencies)

เป็นการสอบวัดทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในอนาคต หรือเรียกง่าย ๆ ว่าข้อสอบวัดทัศนคติ โดยจะเน้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาต่าง ๆ การตัดสินใจและแนวคิดในการทำงานเป็นทีม ซึ่งจะแยกออกมาเป็น 4 เรื่องหลัก ๆ ดังนี้

3.1 Value Creation & Innovation : การสร้างคุณค่าและวัฒนธรรม

จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  • การคิดเชิงวิเคราะห์
  • การแก้ไขปัญหาอย่างมืออาชีพ
  • ความคิดเชิงนวัตกรรม

3.2 Complex Problem Solving : การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน

จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  • การระบุปัญหา
  • การแสวงหาทางออก
  • การนำทางออกไปแก้ปัญหา
  • การประเมินทางออกเพื่อการพัฒนาปรับปรุง

3.3 Emotional Governance : การบริการจัดการอารมณ์

จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  • ความตระหนักรู้ตนเอง
  • การควบคุมอารมณ์และบุคลิกภาพ
  • ความเข้าใจผู้อื่น

3.4 Civic Engagement : การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม

จำนวน 15 ข้อ ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  • การมุ่งเน้นการบริการสังคม
  • จิตสำนึกและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
  • การสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของท้องถิ่น

 

TPAT คืออะไร ?

TPAT หรือ Thai Professional Aptitude Test เป็นข้อสอบความถนัดด้านวิชาชีพ มีการปรับวิชามาจาก PAT ให้เหลือเพียง 5 รายวิชา และคะแนนเต็มรวม 100 คะแนน ประกอบไปด้วย…

TPAT1 : กสพท. หรือความถนัดแพทย์ (สอบรูปแบบกระดาษเท่านั้น)

ข้อสอบสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการจะสอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ ในกลุ่ม กสพท (สำหรับคณะแพทย์อื่น ๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วม กสทพ ก็สามารถใช้ TPAT1 ในการยื่นได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ต้องดูข้อกำหนดของทางมหาวิทยาลัยเป็นหลัก)

TPAT2 : ความถนัดศิลปกรรมศาสตร์

ข้อสอบสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการจะสอบเข้าคณะสายศิลปกรรมศาสตร์ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท คือ

  • TPAT21 ทัศนศิลป์
  • TPAT22 ดนตรี
  • TPAT23 นาฏศิลป์

ซึ่งสามารถเลือกสอบได้ตามความถนัด(เนื้อหาข้อสอบทางมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ออกข้อสอบเอง) มีข้อสอบทั้งหมด 150 ข้อ 100 คะแนน ใช้เวลาในการสอบ 3 ชั่วโมง

TPAT3 : ความถนัดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์

ข้อสอบสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการจะสอบเข้าคณะสายวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์ มีข้อสอบทั้งหมด 70 ข้อ 100 คะแนน ใช้เวลาในการสอบ 3 ชั่วโมง โดยข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 2 พาร์ท คือ

  • การทดสอบความถนัดด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ (45 ข้อ)
  • การทดสอบความคิดและความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ (25 ข้อ)

TPAT4 : ความถนัดสถาปัตยกรรมศาสตร์ (ไม่ต้องสอบวาดรูป)

ข้อสอบสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการจะสอบเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มีข้อสอบทั้งหมด 80 ข้อ 100 คะแนน ใช้เวลาในการสอบ 3 ชั่วโมง โดยเนื้อหาข้อสอบจะถูกแบ่งออกเป็น 4 พาร์ทใหญ่ ๆ คือ

  • ความรู้ทั่วไปด้านศิลปะและการออกแบบ ที่เกี่ยวข้องกับงานสถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม และสถาปัตยกรรมภายใน (24 ข้อ)
  • ความรู้ทั่วไปด้านทฤษฎีสีและทฤษฎีด้านความงามทางศิลปะและงานสถาปัตยกรรม (16 ข้อ)
  • ความรู้พื้นฐานระบบโครงสร้าง ประเภทและลักษณะโครงสร้าง องค์ประกอบของโครงสร้างทางสถาปัตยกรรม และงานระบบพื้นฐานในงานสถาปัตยกรรม (24 ข้อ)
  • การรับรู้ด้านมิติสัมพันธ์และรูปทรง (16 ข้อ)

TPAT5 : ความถนัดครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ (วิชาชีพครู)

ข้อสอบสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการจะสอบเข้าคณะครู มีข้อสอบทั้งหมด 100 ข้อ 100 คะแนน ใช้เวลาในการสอบ 3 ชั่วโมง โดยเนื้อหาข้อสอบจะถูกแบ่งออกเป็น 2 พาร์ท คือ

  • ความสามารถพื้นฐานทางวิชาชีพครู (50 ข้อ)
  • คุณลักษณะความเป็นครู (50 ข้อ)

 

A-Level หรือ Applied Knowledge คืออะไร ?

A-Level หรือ Applied Knowledge คือ ข้อสอบที่วัดความรู้เชิงวิชาการ ซึ่งเป็นชื่อเรียกใหม่ ที่ถูกใช้แทน 9 วิชาสามัญ(เดิม) มีวิชาที่สอบทั้งหมด 10 วิชา (วิชาละ 100 คะแนน) ดังนี้

  1. คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม)
  2. คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 (พื้นฐาน)
  3. วิทยาศาสตร์ประยุกต์
  4. ฟิสิกส์
  5. เคมี
  6. ชีววิทยา
  7. ภาษาไทย
  8. สังคมศึกษา
  9. ภาษาอังกฤษ
  10. ภาษาต่างประเทศ (ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ญี่ปุ่น, จีน, บาหลี, เกาหลี)

 

ใครสอบ TGAT TPAT ได้บ้าง ?

สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์สอบ TGAT TPAT คือนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  หรือเทียบเท่า(ปวช. ปวส. หรือนักเรียนที่เรียนจบจากต่างประเทศ) เท่านั้น ทั้งนี้จะต้องลงทะเบียน TCAS ใน mytcas ให้เรียบร้อยเสียก่อน ถึงจะสมัครสอบ TGAT TPAT ได้

 

การสอบ TGAT TPAT ต้องสอบทุกคนไหม ?

การสอบ TGAT TPAT ไม่ใช่เป็นการสอบภาคบังคับ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่ทุกคนจะต้องสอบ แต่อย่างไรก็ตามคะแนนสอบ TGAT TPAT ค่อนข้างที่จะมีความสำคัญค่ะ เพราะคะแนนจะถูกนำไปใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อศึกษาต่อในระบบ TCAS หลายรอบด้วยกัน อีกทั้งหลาย ๆ มหาวิทยาลัยยังใช้คะแนนสอบ TGAT TPAT เป็นหนึ่งในเกณฑ์สำหรับคัดเลือกนักศึกษาอีกด้วย เพราะฉะนั้นเราขอแนะนำให้น้อง ๆ เข้าสอบ TGAT TPAT จะดีกว่าค่ะ

 

คะแนน TGAT TPAT มีอายุเท่าไหร่ ?

คะแนน TGAT TPAT มีอายุ 1 ปี

 

ใช้คะแนน TGAT TPAT รอบไหน ?

สำหรับคำถามที่ว่า คะแนน TGAT TPAT ใช้ในการสอบรอบไหน ? คำตอบก็คือน้อง ๆ สามารถใช้คะแนน TGAT TPAT ได้ใน 3 รอบ หลัก ๆ คือ รอบ 1 Portfolio,  รอบ 2 Quota และ รอบ 3 Admission

  • รอบ 1 Portfolio : เน้นความสามารถที่โดดเด่น ผลงานแบบแน่น ๆ มีทักษะ มีความสามารถและคุณสมบัติพิเศษตรงตามความต้องการของมหาวิทยาลัย (คะแนนที่ใช้ยื่น : GPAX , TGAT , TPAT)
  • รอบ 2 Quota : สำหรับน้อง ๆ ในโครงการพิเศษ และน้อง ๆ ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ ซึ่งต้องอยู่ในตามเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดร่วมด้วย อาทิ ความสามารถด้านการเรียน ด้านกีฬา ด้านดนตรี ด้านศิลปะ ฯลฯ ทั้งนี้อาจจะใช้ทั้งคะแนน TGAT TPAT และ A-Level ซึ่งบางครั้งอาจจะมีข้อสอบที่ทางมหามวิทยาลัยออกเองด้วย
  • รอบ 3 Admission : รอบรับตรง เปิดสมัครพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งในรอบนี้จะพิจารณาจากคะแนนเป็นหลัก และก็แน่นอนค่ะว่าจะต้องใช้คะแนนสอบ TGAT TPAT และ A-Level
  • รอบ 4 Direct Admission : รอบรับตรงอิสระ หรือเรามักจะเรียกกันว่ารอบเก็บตก ซึ่งรอบนี้เปิดรับค่อนข้างที่จะน้อยและไม่ได้เปิดรับทุกมหาวิทยาลัย โดยคะแนนที่ใช้อาจจะเป็น TGAT TPAT A-Level หรือขึ้นอยู่กับทางมหาวิทยาลัยกำหนด

 

รายละเอียดข้างต้นคงพอจะทำให้น้อง ๆ และผู้ปกครองเข้าใจกับการสอบ TGAT TPAT กันเพิ่มมากขึ้นนะคะ และในนามของทีมงาน Renthub ก็ขออวยพรให้น้อง ๆ สอบติดมหาวิทยาลัยที่หวัง ได้คะแนนสอบออกมาสมกับที่ตั้งใจ และที่สำคัญอย่าลืมทบทวนบทเรียน ฝึกทำโจทย์อยู่เสมอ ๆ เพื่อที่ว่าไปเจอข้อสอบจริง ๆ จะได้ไม่ตื่นเต้นนั่นเองค่ะ หรือถ้าหากใครต้องการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็สามารถเข้าไปอ่านได้ที่บทความ “รวมพิกัดมูเตลู(ขอพรเรื่องเรียน) สำหรับนักเรียน/นักศึกษาโดยเฉพาะ” และไว้โอกาสหน้าเราจะนำข้อมูลดี ๆ อะไรมาฝากอีก ก็สามารถติดตามได้ที่ Renthub Blog : บทความที่รวบรวมทุกเรื่องราวของชาวเด็กหอฯ

 

ดาวน์โหลด Renthub App เพื่อให้การค้นหาหอพักของคุณเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้วได้ที่ > คลิก (รองรับทั้งระบบ IOS และ Android)

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.cututoronline.com, https://www.ondemand.in.th และ https://www.mytcas.com

RELATED ARTICLES

ห้องเช่าไม่ได้แปลว่าแต่งไม่ได้! แชร์เทคนิคแต่งห้องแบบไม่โดนปรับ

ห้องเช่าไม่ได้แปลว่าแต่งไม่ได้! แชร์เทคนิคแต่งห้องแบบไม่โดนปรับ

ห้องเช่าแต่งไม่ได้จริงหรือ ? รวมเทคนิคแต่งห้องให้น่าอยู่แบบไม่โดนปรับ เหมาะสำหรับคนอยู่หอพัก อยากแต่งห้องสวยโดยไม่ทำผิดกติกาการเช่า

โพสต์เมื่อ25 December 2025
เช็กด่วน! ปีชง 2569 ใครบ้างต้องระวัง พร้อมสถานที่แก้ปีชงแบบปักหมุด!

เช็กด่วน! ปีชง 2569 ใครบ้างต้องระวัง พร้อมสถานที่แก้ปีชงแบบปักหมุด!

เช็กด่วน ปีชง 2569 มีปีนักษัตรไหนต้องระวัง พร้อมแนะนำสถานที่แก้ปีชงยอดนิยม เสริมดวง ปัดเป่าสิ่งไม่ดี รับพลังบวกตลอดปี

โพสต์เมื่อ24 December 2025

POPULAR ARTICLE

รวมลิสต์ของจำเป็นของเด็กหอ ย้ายหอใหม่แล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง ?

รวมลิสต์ของจำเป็นของเด็กหอ ย้ายหอใหม่แล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง ?

โพสต์เมื่อ02 June 2025
Renthub Logo

บริษัท ซิมเปิ้ล มีเดีย จํากัด
เลขที่ 242, 244, 246 ชั้น 2 ห้องเลขที่ A210A ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10230
โทร. 02-105-4287

COPYRIGHT © 2024, ZIMPLE MEDIA CO.,LTD, ALL RIGHTS RESERVED.

FOLLOW UP

Facebook
Line
Youtube
Instagram
Instagram
Instagram