ช่วงหน้าร้อนทีไร ค่าไฟก็มักจะพุ่งทะลุเพดานแบบไม่เกรงใจเงินในบัญชีเล้ยยย แถมบางทีสภาพอากาศก็ร้อนจนหลีกเลี่ยงการใช้แอร์ไม่ได้ แต่ถ้าเรารู้วิธีบริหารการใช้ไฟฟ้าให้ดี ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อยเลยนะคะ และวันนี้เราก็มีเคล็ดลับเด็ด ๆ ในการประหยัดไฟหน้าร้อนมาฝาก ซึ่งรับรองว่าทำง่าย ไม่ยุ่งยาก แถมช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้จริงอีกด้วย และถ้าพร้อมแล้ว เราไปพบกับเคล็ดลับประหยัดค่าไฟหน้าร้อนสำหรับชาวหอฯ พร้อม ๆ กันเลย
1. ใช้พัดลมให้เป็น ไม่ต้องเปิดแอร์ 24 ชม. 🌬️
การใช้แอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน นอกจากจะทำให้ค่าไฟพุ่งสูงแล้ว ยังทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และอาจจะส่งผลให้ป่วยง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งถ้าวันไหนอากาศไม่ร้อนมาก เพื่อน ๆ ลองใช้พัดลมช่วยระบายอากาศ โดยเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท จะช่วยให้ห้องเย็นขึ้นแบบธรรมชาติ หรือถ้าจำเป็นต้องเปิดแอร์ แนะนำให้เปิดแค่ช่วงหัวค่ำให้ห้องเย็นก่อนแล้วค่อยปิดแอร์และใช้พัดลมแทน วิธีนี้จะช่วยให้ความเย็นกระจายทั่วห้อง โดยที่ไม่ต้องเสียค่าไฟแพง ๆ
2. ตั้งอุณหภูมิแอร์ให้พอดี ❄️
หลาย ๆ คนเข้าใจผิดว่าการตั้งอุณหภูมิแอร์ให้ต่ำที่สุดจะช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น แต่ในความจริงแล้ว ยิ่งตั้งอุณหภูมิต่ำ แอร์ก็ยิ่งทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น ซึ่งทางที่ดีควรตั้งอุณหภูมิอยู่ที่ 26 - 27°C เพราะเป็นระดับที่ช่วยประหยัดพลังงาน แต่ยังให้ความเย็นสบาย รวมไปถึงควรใช้โหมด Eco Mode หรือ Sleep Mode ที่จะช่วยลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ในช่วงที่เราไม่ต้องการความเย็นมาก ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดภาระค่าไฟได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
3. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้ 🔌
เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างถึงแม้จะปิดเครื่องแล้ว แต่ถ้ายังเสียบปลั๊กอยู่ก็ยังคงกินไฟอยู่ดี เช่น ทีวี กาต้มน้ำไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ ซึ่งรวม ๆ แล้ว ก็สามารถเพิ่มค่าไฟได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ฉะนั้นการดึงปลั๊กออกเมื่อไม่ได้ใช้งานจึงเป็นวิธีที่ช่วยลดค่าไฟได้ง่าย ๆ ที่ชาวหอฯ ทุกคนสามารถทำได้อย่างแน่นอน หรือถ้าขี้เกียจถอดปลั๊กทุกครั้ง ลองใช้ปลั๊กรางที่มีสวิตช์ปิด-เปิด ก็จะช่วยให้เราปิดไฟทุกอย่างได้ในคลิกเดียว
4. ใช้หลอดไฟ LED ประหยัดไฟกว่า 💡
หลอดไฟแบบเดิม เช่น หลอดไส้ หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ ไม่เพียงแต่จะกินไฟมาก แต่ยังมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าหลอด LED อยู่หลายเท่าตัว ฉะนั้นหอพักใครที่ยังใช้หลอดแบบเก่าอยู่ควรจะต้องรีบเปลี่ยนและหันมาใช้หลอดไฟ LED กันแบบด่วน ๆ ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้หลอด LED จะช่วยลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 30 - 50% แถมยังให้แสงสว่างที่คมชัดและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ
5. ซักผ้า-รีดผ้าให้คุ้ม 👕
เครื่องซักผ้าและเตารีดไฟฟ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก ๆ ดังนั้นควรซักผ้าครั้งละเยอะ ๆ แทนที่จะซักบ่อย ๆ เพราะการเปิดเครื่องหลายรอบจะเป็นการเปลืองไฟโดยใช่เหตุ นอกจากนี้การรีดผ้าก็ควรรีดครั้งละเยอะ ๆ เช่นเดียวกัน อีกทั้งในขณะที่รีดผ้าไม่ควรเปิดแอร์ เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น(เพราะตรวจจับความร้อนได้) ซึ่งนั่นก็จะทำให้มิเตอร์ไฟของห้องเราวิ่งรัว ๆ เลยล่ะค่ะ
6. จัดตู้เย็นช่วยเซฟค่าไฟ 🧊
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊กไว้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่เราสามารถประหยัดพลังงานได้โดยการตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม (ช่องธรรมดา 3-5°C / ช่องฟรีซ -18°C) นอกจากนี้ควรจัดของในตู้เย็นให้เป็นระเบียบ ไม่แน่นเกินไป เพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้สะดวก และหลีกเลี่ยงการเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อย ๆ เนื่องจากทุกครั้งที่เปิด ประสิทธิภาพการทำความเย็นจะลดลง ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น และกินไฟมากขึ้นนั่นเองค่ะ
7. ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบประหยัดพลังงาน 🌱
ถ้าเพื่อน ๆ อยู่ในช่วงเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าใหม่ ก็อย่าลืมมองหาฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโหมดประหยัดพลังงาน เช่น เครื่องซักผ้าที่มีระบบ Inverter, แอร์ที่มีระบบประหยัดพลังงานอัตโนมัติ หรือทีวีที่สามารถตั้งโหมด Sleep ได้ ซึ่งการเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีโหมดประหยัดพลังงาน จะช่วยลดค่าไฟในยามสิ้นเดือนไปได้เยอะเลยล่ะค่ะ
8. ใช้พัดลมเป่าผมแทนการไดร์ 💨
ไดร์เป่าผมเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่กินไฟหนักมาก เพราะใช้พลังงานสูงในการเป่าลมร้อนออกมา ยิ่งถ้าใครผมยาวก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลานานในการเป่าผมให้แห้ง ซึ่งก็ยิ่งทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัว และทางออกง่าย ๆ ก็คือ...ใช้พัดลมเป่าผมแทนไดร์ แม้ว่าจะใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย แต่ช่วยลดการใช้พลังงานได้เยอะ แถมยังไม่ทำให้เส้นผมโดนความร้อนมากเกินไป ลดปัญหาผมแห้งเสียอีกด้วยค่ะ
แค่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน ก็จะสามารถช่วยลดค่าไฟได้อย่างมหาศาลโดยที่เพื่อน ๆ แทบจะไม่รู้ตัวเลย ฉะนั้นลองทำตามวิธีประหยัดไฟที่เราได้แนะนำดู ซึ่งรับรองเลยว่า...สิ้นเดือนมาค่าไฟไม่พุ่งจนช็อกอย่างแน่นอนค่ะ และไว้โอกาสหน้าเราจะนำข้อมูลดี ๆ อะไรมาฝากอีก เพื่อน ๆ ก็สามารถติดตามได้ที่ Renthub Blog : บทความที่รวบรวมทุก Lifestyle ของชาวหอพัก