“เทศกาลสารทจีนหรือวันสารทจีน ถือได้ว่าเป็นวันสำคัญอันดับที่ 2 รองจากเทศกาลตรุษจีนเลยก็ว่าได้ ซึ่งวันสารทจีนมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “จงหยวนเจี๋ย” หรือชาวจีนแผ่นดินใหญ่มักจะเรียกกันติดปากว่า "กุ่ย เจี๋ย" โดยตามความเชื่อนั้นวันสารทจีนคือวันที่ประตูนรกจะเปิดให้วิญญาณทั้งหลายมารับผลบุญกุศลจากเหล่าบรรดาลูกหลานที่จะแสดงความกตัญญูต่อญาติผู้ล่วงลับผ่านการเซ่นไหว้ รวมไปถึงวันสารทจีนยังมีกุศโลบายเล็กๆ ที่แอบซ่อนไว้อยู่ ก็คือเป็นวันที่จะทำให้ทุกๆ คน ในครอบครัวได้กลับมาทำกิจกรรมร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาในวันสำคัญวันนี้ ส่วนวันสารทจีนจะตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินทางจันทรคติของทุกๆ ปี”
ตำนานของวันสารทจีน
สำหรับตำนานของวันสารทจีน ทางทีมงาน Renthub ก็ได้ไปรวบรวมข้อมูลมาได้ทั้งหมด 3 ตำนาน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้...
ตำนานที่ 1
ตำนานนี้กล่าวไว้ว่า “วันสารทจีน” เป็นวันที่เงี่ยมล้อเทียนจือ (ยมบาล) จะตรวจดูบัญชีวิญญาณคนตาย ส่งวิญญาณดีขึ้นสวรรค์และส่งวิญญาณร้ายลงนรก ชาวจีนทั้งหลายรู้สึกสงสารวิญญาณร้ายจึงทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ดังนั้นเพื่อให้วิญญาณร้ายออกมารับกุศลผลบุญนี้จึงต้องมีการเปิดประตูนรกนั่นเอง
ตำนานที่ 2
ตำนานที่ 2 ระบุเอาไว้ว่า...มีชายหนุ่มผู้หนึ่งชื่อ “มู่เหลียน” (พระมหาโมคคัลลานะ) เป็นคนเคร่งครัดในพุทธศาสนามาก ผิดกับมารดาที่เป็นคนใจบาปหยาบช้าไม่เคยเชื่อเรื่องนรกสวรรค์มีจริง ปีหนึ่งในช่วงเทศกาลกินเจนางเกิดความหมั่นไส้คนที่นุ่งขาวห่มขาวถือศีลกินเจ นางจึงให้มู่เหลียนไปเชิญผู้ถือศีลกินเจเหล่านั้นมากินอาหารที่บ้านโดยนางจะทำอาหารเลี้ยงหนึ่งมื้อ
ผู้ถือศีลกินเจต่างพลอยยินดีที่ทราบข่าวว่ามารดาของมู่เหลียนเกิดศรัทธาในบุญกุศลครั้งนี้ จึงพากันมากินอาหารที่บ้านของมู่เหลียนแต่ไม่รู้ว่าในน้ำแกงเจนั้นมีน้ำมันหมูเจือปนอยู่ด้วย การกระทำของมารดามู่เหลียนนั้นถือว่าเป็นกรรมหนัก เมื่อตายไปจึงตกนรกอเวจีมหานรกขุมที่ 8 ซึ่งเป็นนรกขุมลึกที่สุดได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส
เมื่อมู่เหลียนคิดถึงมารดา ก็ได้ถอดกายทิพย์ลงไปในนรกภูมิ จึงได้รู้ว่ามารดาของตัวเองกำลังอดอยาก จึงป้อนอาหารแก่มารดา แต่ได้ถูกบรรดาภูตผีที่อดอยากรุมแย่งไปกินหมดและเม็ดข้าวสุกที่ป้อนนั้นกลับเป็นไฟเผาไหม้ริมฝีปากของมารดาจนพอง แต่ด้วยความกตัญญูและสงสารมารดาที่ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส มู่เหลียนได้เข้าไปขอพญาเหงี่ยมล่ออ๊อง (ยมบาล) ว่าตัวเองขอรับโทษแทนมารดา
แต่ก่อนที่มู่เหลียนจะถูกลงโทษด้วยการนำร่างลงไปต้มในกระทะทองแดง พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาโปรดไว้ได้ทัน โดยกล่าวว่ากรรมใดใครก่อก็ย่อมจะเป็นกรรมของผู้นั้นและพระพุทธเจ้าได้มอบคัมภีร์อิ๋ว หลันเผิน ให้มู่เหลียนท่องเพื่อเรียกเซียนทุกทิศทุกทางมาช่วยผู้มีพระคุณให้หลุดพ้นจากการอดอยากและทุกข์ทรมานต่างๆ ได้ โดยที่มู่เหลียนจะต้องสวดคัมภีร์อิ๋ว หลันเผินและถวายอาหารทุกปีในเดือนที่ประตูนรกเปิดจึงจะสามารถช่วยมารดาของเขาให้พ้นโทษได้
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวจีนจึงได้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อมากันโดยตลอดด้วยการเซ่นไหว้ โดยจะนำอาหารทั้งคาวหวาน และกระดาษเงินกระดาษทองไปวางไว้ที่หน้าบ้านหรือตามทางแยกที่ไม่ไกลนัก มีนัยว่าเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของบรรดาวิญญาณเร่ร่อนที่กำลังจะผ่านมาใกล้ที่พักของตน
ตำนานที่ 3
เป็นตำนานที่มีที่มาจากความเชื่อในลัทธิเต๋าที่ว่า ทุกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 7 เป็นวันคล้ายวันประสูติของตี้กวานต้าตี้ (地官大帝dì guān dàdì) 1 ใน 3 ผู้เป็นใหญ่ใน 3 โลก ซึ่งมีหน้าที่ดูแลโลกของดินและลบล้างสิ่งชั่วร้ายให้แก่มวลมนุษย์ ในวันนี้ของทุกปีตี้กวานต้าตี้จะลงมาสำรวจบุญบาปในโลกมนุษย์ ส่งผลให้ประตูนรกเปิดออกเพื่อให้ดวงวิญญาณทั้งหลายกลับมายังโลกมนุษย์เพื่อเยี่ยมลูกหลานและสะสางความแค้น ดังนั้นในวันนี้ชาวจีนจึงได้จัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ รวมทั้งทำทานให้แก่บรรดาวิญญาณเร่รอนที่ไร้ญาติ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.learningeast.com และ www.sanook.com
พิธีการเซ่นไหว้วันสารทจีน
ในการเซ่นไหว้ในวันสารทจีนนั้นจะมีการแบ่งชุดไหว้ออกเป็น 3 ชุด ซึ่งถือได้ว่ามีความแตกต่างจากเทศกาลหรือวันอื่นๆ โดยชุดไหว้ทั้ง 3 ชุด ประกอบไปด้วย...
1. ชุดสำหรับไหว้เจ้าที่ (ช่วงเช้า)
สำหรับชุดไหว้สำหรับเจ้าที่จะประกอบไปด้วย
อาหารคาว เช่น เป็ด ปลา หมู ไก่ ฯลฯ
อาหารหวาน ได้แก่ ขนมเทียนและขนมเข่ง ที่ต้องมีการแต้มจุดสีแดงไว้ตรงกลาง (ตามความเชื่อชาวจีนว่ากันว่า สีแดงเป็นสีแห่งความสิริมงคล)
ผลไม้มงคลชนิดต่างๆ เช่น ทับทิม ส้ม กล้วย แก้วมังกร องุ่น ฯลฯ
เครื่องดื่ม เช่น น้ำผลไม้ น้ำชา เหล้าจีน ฯลฯ
กระดาษเงินกระดาษทอง
2. ชุดสำหรับไหว้บรรพบุรุษ
สำหรับชุดไหว้บรรพบุรุษจะคล้ายๆ กับชุดไหว้สำหรับเจ้าที่ แต่ตามธรรมเนียมจะต้องมีน้ำแกงหรือขนมน้ำใสๆ วางไว้ข้างชามข้าวสวย รวมไปถึงสามารถนำอาหารที่บรรพบุรุษชอบเมื่อตอนมีชีวิตอยู่มาไหว้ได้เช่นกัน อีกทั้งอย่าลืมจัดจำนวนชามข้าวและชุดน้ำชาตามจำนวนของบรรพบุรุษที่ล่วงลับ พร้อมกับกระดาษเงินกระดาษทอง หรือบ้านกระดาษ รถยนต์กระดาษ ฯลฯ ได้ตามสะดวก
3. ชุดสำหรับไหว้สัมภเวสี
สำหรับชุดไหว้สัมภเวสี จะ มีของคาว ของหวาน ผลไม้ คอปึ่ง(ข้าวคลุกกระเทียมเจียว) เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ เหล้า น้ำชา ทั้งนี้จัดชุดไหว้สัมภเวสีจะเอาไว้นอกบ้านเท่านั้น
ความหมายของของไหว้สารทจีน
อาหารคาวหวานและผลไม้ที่นำมาเซ่นไหว้ในเทศกาลสารทจีนนั้น ทุกๆ อย่างล้วนมีความหมายตามความเชื่อ โดยเราไปเริ่มกันที่...
ปลา หมายถึง การมีกินมีใช้ไม่ขาดมือ
กุ้ง หมายถึง การมีโชคลาภเข้ามาไม่ขาดสาย
เป็ด หมายถึง ความสมบูรณ์ในชีวิต
ไก่ หมายถึง ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
หมู หมายถึง การมีกินมีใช้ อุดมสมบูรณ์เหมือนความอ้วนของหมู
เม็ดบัว หมายถึง การมีลูกชายจำนวนมาก
ข้าวสวย หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ตลอดปี
ขนมเข่งและขนมเทียน หมายถึง ความราบรื่น หวานชื่น คิดหวังสิ่งใดก็สมดังคิด
ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง เพิ่มพูนความสุข
ขนมเปี๊ยะ หมายถึง การที่ทุกๆ คน ในครอบครัวจะมีความรักใคร่กลมเกลียว สามัคคีกัน
ขนมปุยฝ้าย หมายถึง เงินทองที่เพิ่มพูน มีกินมีใช้ไม่รู้หมด
ซาลาเปาและหมั่นโถว หมายถึง ความโชคดี มีชัย ในทุกๆ เรื่อง
ขนมจันอับ หมายถึง ความสุข สวัสดี
ถั่วตัด หมายถึง การกินดีอยู่ดี มีความอุดมสมบูรณ์ในทรัพย์
ส้ม หมายถึง ความโชคดี ความเป็นสิริมงคล
กล้วย หมายถึง จะมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
แก้วมังกร หมายถึง การนำชื่อเสียง เกรียรติยศ มาสู่ทุกๆ คนในครอบครัว
แอปเปิล หมายถึง ความสงบสุขภายในครอบครัว
องุ่น หมายถึง อายุที่ยืนยาว มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง
สาลี่ หมายถึง ความสำเร็จต่างๆ ในชีวิต
สัปปะรด หมายถึง ความโชคดี
ไหว้สารทจีนกี่โมง ?
สำหรับเวลาในการไหว้สารทจีนนั้นจะนิยมไหว้กันในช่วงเช้าตรู่ ตั้งแต่ 6 – 8 โมงเช้า และต้องไม่เกิน 12.00 น. (ในการเซ่นไหว้เจ้าที่และบรรพบุรุษ) ส่วนการเซ่นไหว้สัมภเวสีนั้นสามารถไหว้ในช่วงบ่ายๆ หรือจะหลังจากการเซ่นไหว้เจ้าที่และบรรพบุรุษก็ได้เช่นกัน
การไหว้สารทจีนจะต้องใช้ธูปกี่ดอก ?
ไหว้เจ้าที่ : ใช้ธูป 5 ดอก
ไหว้บรรพบุรุษ : ถ้าเสียชีวิตมานานแล้วให้ใช้ธูป 3 ดอก แต่ถ้าพึ่งเสียชีวิตได้ไม่นานให้ใช้ธูป 1 ดอก
ไหว้สัมภเวสี : ใช้ธูป 1 ดอก (ปักธูปที่อาหารหรือภาชนะใส่อาหารอย่างละ 1 ดอก และใช้ธูป 1 ดอกในการไหว้)
ข้อห้ามในวันสารทจีนตามความเชื่อ
ห้ามจัดงานหมั้น งานแต่งงาน
ห้ามเดินทางไกล เช่น ไปต่างจังหวัด ไปต่างประเทศ
ห้ามย้ายบ้าน ย้ายหอพัก หรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่
ห้ามออกจากบ้านในเวลากลางคืนหรือหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน
ห้ามว่ายน้ำในเวลากลางคืน
ห้ามตากผ้าตอนกลางคืน
ห้ามถ่ายรูปตอนกลางคืน
ห้ามทำการปรับปรุงบ้าน
ห้ามเปิดกิจการในวันนี้
ห้ามทาเล็บสีดำ
ห้ามปักตะเกียบลงในจานข้าว
ห้ามขานรับเสียงเรียกแปลกๆ ในเวลากลางคืน
ห้ามสัมผัสหรือแตะต้องของเซ่นไหว้ข้างทาง
ห้ามฆ่าแมลงเม่า ผีเสื้อหรือตั๊กแตนภายในบ้าน (เพราะเชื่อกันว่านั่นคือวิญญาณของบรรพบุรุษ)
สรุปแล้ววันสารทจีนหรือเทศกาลสารทจีน ก็คือวันที่ทุกๆ คน ในครอบครัวจะกลับมาร่วมทำบุญให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว อีกทั้งยังเป็นกุศโลบายที่จะช่วยทำให้คนในครอบครัวได้กลับมาอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาอีกด้วย และสำหรับเจ้าของหอพักท่านใดที่ต้องการปล่อยห้องว่าง คุณก็สามารถมาลงประกาศได้ฟรีที่ Renthub เว็บไซต์อันดับหนึ่งของประเทศไทยที่ผู้คนไว้ใจในการค้นหาหอพัก