ปัญหาโลกแตกที่เหล่าเจ้าของหอพักมักจะคิดไม่ตกเลยก็คือ “ เมื่ออุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ภายในห้องชำรุด เราควรที่จะเรียกเก็บเงินผู้เช่าหรือไม่ ? ” เนื่องจากมีหลายๆ กรณีที่พอเรียกเก็บจากผู้เช่าไป ก็เกิดการโต้เถียงว่าสภาพของเครื่องใช้มีการชำรุดอยู่แล้ว หรือหากไม่มีการเรียกเก็บก็อาจจะทำให้ผู้เช่าไม่รักษาหรือดูแลอุปกรณ์ภายในห้องเอาได้ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแลกเปลี่ยนความคิดในประเด็นนี้กัน!
ความคิดเห็นที่น่าสนใจจากเจ้าของหอพักหลายๆ คน
สำหรับคำถามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น หากจะให้ทีมงานฟันธงในคำตอบแบบชัดเจน เราก็คงจะตอบได้ไม่เต็มปากเต็มคำ เพราะส่วนใหญ่แล้ว “คำตอบมักจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าของหอพักเป็นหลัก” และแน่นอนว่าทางทีมงานก็ได้ไปรวบรวมความคิดเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นนี้มาฝาก โดยความคิดเห็นจากเจ้าของหอพักจะแบ่งออกเป็น 2 คำตอบอย่างชัดเจน ซึ่งก็คือ...
ควรเรียกเก็บเงินจากผู้เช่า!
โดยทางเจ้าของหอพักหลายๆ คน ให้เหตุผลว่า…
ผู้เช่าเป็นผู้ทำชำรุด ดังนั้นผู้เช่าจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่! มันก็จะมีคำถามตามมาว่า แล้วรู้ได้อย่างไรว่าผู้เช่าเป็นคนที่ทำอุปกรณ์ชำรุด ? เพราะมันอาจจะพังมาก่อนหน้านั้นแล้วก็ได้ ดังนั้นทางเจ้าของหอพักจึงให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า อาจจะต้องมีการถ่ายรูปอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ ก่อนที่จะส่งมอบห้องให้กับผู้เช่า เพื่อที่รูปถ่ายจะได้กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่าก่อนหน้านี้อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์ ไม่มีการชำรุดแต่อย่างใด อีกทั้งควรระบุไว้ในสัญญาเช่าให้ชัดเจนว่ามีการตรวจสอบอุปกรณ์ภายในห้องพักเรียบร้อยแล้วและทุกอย่างมีสภาพดี ใช้งานได้ตามปกติ ดังนั้นหากเกิดความเสียหายขึ้นมา ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ไม่ควรเรียกเก็บเงินจากผู้เช่า!
สำหรับความคิดเห็นที่ว่า “ไม่ควรเรียกเก็บเงินจากผู้เช่า” นั้น ทางเจ้าของหอพักหลายๆ คน ได้ให้เหตุผลว่า..
ของบางสิ่งภายในห้องพัก อาจจะเกิดการชำรุดได้เพราะถูกใช้งานมานานหลายปีและเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ซึ่งทางเจ้าของหอพักควรจะมีการประณีประนอมและคิดเสียว่าอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องถูกใช้งานมาเป็นเวลานานอาจจะมีการเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา และถ้าหากจะมีการชำรุดบ้างก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ทั้งนี้ต้องดูเป็นกรณีไปอาทิเช่น แอร์มีปัญหา น้ำยาแอร์หยด น้ำยาแอร์หมด แอร์ไม่เย็น กรณีแบบนี้ทางเจ้าของหอพักควรที่จะจัดการค่าซ่อมแซมต่างๆ ให้ เพราะเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นจากการทำงานที่มีความผิดปกติของแอร์ แต่! ถ้าเป็นกรณีที่แอร์เกิดมีรอยขีดข่วน รอยบุบ ในเคสแบบนี้อาจจะต้องมีการคิดค่าปรับกับทางผู้เช่า เพราะตัวแอร์คงไม่สามารถบุบหรือมีรอยขีดข่วนขึ้นมาเองได้
โดยสรุปแล้ว หลังจากที่ทางทีมงานได้ฟังความคิดเห็นจากหลายๆ ฝ่ายมานั้น เราจึงมองว่าการระบุรายละเอียดในเรื่องนี้ลงไปในสัญญาเช่า/การถ่ายรูปอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ภายในห้องไว้ก่อนที่ผู้เช่าจะเข้าพักและการตรวจเช็คอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ไปพร้อมกับผู้เช่าก่อนเซ็นสัญญา จะช่วยทำให้ปัญหานี้คลี่คลายและพบกับทางออกที่ดีที่สุด อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าของหอพักเป็นหลักอีกด้วย!