ปฏิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 ต่อมาจนถึงปี 2021 นี้ เป็นช่วงเวลาอันแสนยากลำบากของคนไทยและคนทั่วโลก สาเหตุหลักก็มาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำเอาหลาย ๆ คนไม่ว่าอาชีพไหนต่างก็ต้องปรับตัวและมองหาทางรอดไปตาม ๆ กัน แล้วถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ได้รับมรดกตกทอดจากครอบครัวเป็น “ธุรกิจหอพัก” คงเกิดคำถามตามมามากมายว่าด้วยสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นแบบนี้ควรไปต่อดีไหม?
ธุรกิจหอพักกับสถานการณ์ในปี 2021 ไปต่อหรือพอแค่นี้?
จริง ๆ แล้วหากอยู่ในสถานการณ์ปกติ การมีมรดกตกทอดเป็นกิจการจากรุ่นคุณพ่อคุณแม่ถือเป็นเรื่องโชคดีมาก เพราะอย่างน้อยก็ได้ทำงานที่มีกิจการเป็นของตนเอง ไม่ต้องเป็นลูกน้องคนอื่น แต่เมื่อตัดภาพกลับมาในยุคนี้ความคิดดังกล่าวอาจไม่ใช่คำตอบของหลาย ๆ คน นั่นก็เพราะว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักเป็นวงกว้าง ซึ่งหอพัก อพาร์ทเม้นท์ในบางพื้นที่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
อย่างหอพักที่อยู่ใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย ที่ช่วงนี้มีการเลื่อนเปิดเทอมหรือบางส่วนเปลี่ยนมาเรียนแบบออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้เด็กนักเรียน นักศึกษา เลือกที่จะกลับบ้าน หรือจากปกติที่เช่าอยู่กันคนละห้องก็เปลี่ยนมาหารค่าเช่ารวมกันกับเพื่อนเพียงห้องเดียวเพื่อเอาไว้เก็บของระหว่างกลับบ้าน หรือแม้กระทั่งหอพัก อพาร์ทเม้นท์ ใกล้โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ที่มีการปิดตัวลงจากพิษโควิดก็ส่งผลกระทบทำให้คนงานที่เช่าหอพัก อพาร์ทเม้นท์อยู่ในย่านนั้นต่างพากันย้ายออกไปบ้าง
ซึ่งผลกระทบต่าง ๆ เหล่านี้เองที่จะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ที่ได้รับมรดกตกทอดมาในช่วง 1-2 ปีนี้ว่าทั้งสภาพเศรษฐกิจและสภาพคล่องทางการเงินของเรานั้น มีความสมดุลกันและสามารถไปต่อได้หรือไม่
สภาพคล่องทางการเงิน รายรับ-รายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงกับธุรกิจหอพักปี 2021
การได้รับมรดกเป็นธุรกิจหอพัก บางแห่งอาจยังมีภาระต้องจ่ายค่าผ่อนชำระกับธนาคาร หรือในกรณีที่หอพักเก่า ทรุดโทรม อาจต้องมีการกู้เงินเพื่อมาซ่อมแซมในส่วนต่าง ๆ ให้มีสภาพดีขึ้น ยังไม่นับรวมเรื่องของค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น เรื่องภาษี, ระบบการจัดการต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการลงทุนเพิ่มเติม อย่างเช่นสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้ลูกบ้านได้อยู่อาศัยอย่างครบครันมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “รายจ่าย” ซึ่งคนทำธุรกิจหอพักจะรู้ดีว่าความจิปาถะนั้นมีอยู่เยอะมาก แล้วยิ่งคนไม่ค่อยออกไปไหนแบบนี้ความสะดวกยิ่งต้องมีให้ครบมากที่สุด
คราวนี้มาดูกันในเรื่องรายได้ แม้จำนวนผู้เข้าพักอาจคงเดิม แต่เมื่อพวกเขาขาดรายได้ การจะติดตามทวงหนี้ทุกเดือนก็ดูเป็นเรื่องโหดร้ายเกินไป หรืออาจต้องมีการปรับลดราคาค่าเช่าบ้างเพื่อช่วยเหลือกัน นั่นส่งผลถึงรายได้ที่ลดลง ยิ่งถ้าหอพักแห่งไหนผู้เช่าจำเป็นต้องย้ายออกเพราะขาดรายได้ ไม่มีเงินเช่าต่อ กลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัด ไปอยู่กับครอบครัว รายได้ที่หายไปมันคือความน่ากังวลที่เกิดขึ้น
เมื่อนำรายรับและรายจ่ายมาหักลบกลบหนี้กันคงพอสรุปได้อย่างหนึ่งว่า ในยุคที่เศรษฐกิจแบบนี้ ธุรกิจหอพักอาจไม่ถึงกับมีรายได้สูงอย่างที่หลายคนคาดหวัง แต่เมื่อเป็นการส่งต่อจากครอบครัวเลยมีเรื่องให้ต้องคิดว่าจะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้ แล้วจับเงินก้อนไว้ทำอย่างอื่น? ดังนั้นลองมาดูแนวทางที่อยากแนะนำให้สู้ต่ออีกสักนิดว่าจะปรับอย่างไรได้บ้างเพื่อให้ตอบโจทย์และมีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น
การรีโนเวทหอพัก
เมื่อคิดสู้ต่อก็ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง การได้รับมรดกตกทอดมานั้นแสดงให้เห็นว่าหอพักของคุณอาจมีสภาพเก่า ทรุดโทรมไปบ้าง หรือการออกแบบอาจไม่ได้ดูโมเดิร์นเหมือนกับบรรดาหอพักที่สร้างขึ้นใหม่ ดังนั้นการรีโนเวทหอพักเพื่อให้ดูน่าเข้าอยู่มากขึ้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
แม้ในส่วนของการดีไซน์จะไปปรับเปลี่ยนคงเป็นเรื่องยาก แต่สามารถสร้างความโดดเด่นให้ดูน่าประทับใจได้ เช่น การทาสีตกแต่งใหม่, การปรับปรุงจุดที่ทรุดโทรม หรือมีความเสียหาย เช่น ระบบการระบายน้ำ, ระบบลิฟต์ ฯลฯ ปรับปรุงส่วนกลางให้คนที่เข้ามาติดต่อรู้สึกประทับใจ, เพิ่มระบบความปลอดภัยทั้งตัวพื้นที่จอดรถ และการเข้า-ออกหอพัก เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เมื่อปรับให้เหมาะสมแล้ว ผู้ที่เข้ามาครั้งแรกจะรู้สึกถึงความใส่ใจที่เจ้าของธุรกิจมอบให้ และเป็นการสร้างโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่เพิ่มเติม ส่วนลูกค้าเก่าที่อยู่อาศัยเดิมยิ่งเกิดความประทับใจมากขึ้นกว่าเดิม และรู้สึกอยากอยู่อาศัยต่อไปนาน ๆ
การโปรโมทและทำการตลาดให้กับหอพัก
อีกคำแนะนำดี ๆ สำหรับคนได้รับมรดกหอพักมา เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มจำนวนลูกค้าหรือผู้เข้าพักอาศัยให้มากขึ้น ต้องมีการโปรโมทและทำการตลาดให้กับหอพักของตนเอง ซึ่ง Renthub จะขอแนะนำ 2 เทคนิคดี ๆ ดังนี้
1. ลองสร้าง Brand เป็นของตนเอง
แม้ชื่อของหอพักจะมีอยู่แล้ว แต่ถ้ารู้สึกว่ามันเก่าไป หรือบางคนจะใช้ชื่อนี้แหละ แต่อยากให้ผู้คนรู้จักเพิ่มขึ้น ต้องอาศัยการสร้าง Brand พยายามสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ไม่ว่าจะใช้ช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตาม เช่น การติดป้ายเชิญชวนบริเวณใกล้ ๆ ให้คนรู้จักและอยากเข้าอยู่อาศัย, การสร้างช่องทางติดต่อและมีการอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ หรือข่าวสารที่ไม่ใช่แค่เรื่องหอพัก แต่อาจเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดไวรัล จนมีผู้คนรู้จักหอพักคุณมากขึ้น เป็นต้น
2. ทำการตลาดหอพักด้วยลงประกาศขาย หรือเลือกซื้อโฆษณากับเว็บ Renthub
Renthub เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมอพาร์ทเม้นท์ หอพัก ห้องพัก ทั่วไทยเอาไว้มากมาย ผู้ที่สนใจเข้าพักในย่านไหนก็ต้องคลิกเข้ามาเพื่อเลือกชมหอพักที่ตนเองคิดว่าตอบโจทย์มากที่สุด ดังนั้นหากเลือกทำการตลาดด้วยวิธีลงประกาศเช่าหรือการซื้อโฆษณากับเว็บ Renthub จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้รู้จัก และสนใจเข้าพักได้มากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
แม้ว่าในยุค 2021 การได้รับมรดกครอบครัวเป็นธุรกิจหอพัก อาจต้องเหนื่อยกว่าปกติ แต่เราอยากให้เชื่ออย่างหนึ่งว่า ฟ้าหลังฝนย่อมดีกว่าเสมอ วันนี้ยังอาจเป็นเรื่องยากในการปรับตัวและต้องต่อสู้กับปัญหา แต่ถ้าทุกอย่างคลี่คลายและคุณเคยผ่านช่วงเวลาหนัก ๆ แบบนี้ไปได้ โอกาสที่ธุรกิจจะเติบโตรุ่งเรืองย่อมมีสูงมาก Renthub ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการทุกท่านนะคะ
สำหรับใครที่สนใจโฆษณาบนเว็บไซต์ Renthub เพื่อโปรโมทหอพักให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สามารถติดต่อทีมงานได้ที่
โทร. 02-105-4287
Line: @renthub