ถ้าเป็นเมื่อก่อน ใครอยากจะลงทุนทำธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ได้ยาวๆ เราเชื่อได้เลยว่าหลายๆ คน คงจะเทใจไปให้กับธุรกิจหอพัก ปล่อยห้องเช่าเป็นแน่! เพราะนี่คือธุรกิจที่ได้รับสมญานามว่า “เสือนอนกิน” ลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่สร้างรายได้กลับสู่กระเป๋าได้ในระยะยาว แต่! วิธีคิดแบบนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับการทำธุรกิจหอพักในปัจจุบัน เนื่องจากยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้ถ้าไม่คิดดีๆ จากเสือนอนกินอาจกลายเป็นเสือร้องไห้ได้ในที่สุด ดังนั้นวันนี้เราจึงมาไขคำตอบของประเด็นนี้กัน ว่าแท้ที่จริงแล้วธุรกิจหอพักยังจะเป็นธุรกิจเสือนอนกินที่น่าลงทุนอยู่หรือไม่ ? หรือกลายเป็นแมวเชื่องๆ จนเป็นธุรกิจที่ควรเลี่ยงในยุคที่เศรษฐกิจถดถอยกันแน่ ?
อะไรบ้าง ? ที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจทำธุรกิจหอพัก เพื่อได้เป็นเสือนอนกินดั่งที่ใจคิด
1.ต้นทุนที่ใช้ลงทุน ลองคำนวณเงินลงทุนดูคร่าวๆ ว่าหากคุณทำธุรกิจหอพักจะต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ และเงินที่จะนำมาใช้เป็นเงินเย็นที่คุณมีอยู่แล้ว หรือเป็นเงินร้อนที่ต้องกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน เพราะปัจจัยเรื่องเงินลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าได้ว่า เมื่อทำธุรกิจนี้แล้วคุณจะได้เป็นเสือนอนกิน หรือเสือนอนร้องไห้กันแน่!
2.ทำเลที่ตั้ง ต้องยอมรับว่าก่อนว่าในปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคเลือกหอพักจากความสะดวกสบาย โดยเฉพาะในเรื่องของการเดินทางที่ต้องคล่องตัว ส่งผลให้หอพักที่ตั้งอยู่ในเขตชุมชนหรือที่อยู่ใกล้บริเวณขนส่งมวลชนสาธารณะจะถูกเลือกจับจองมากกว่าและมีผู้อาศัยอยู่แน่นตลอดปี ซึ่งถ้าทำเลของคุณไม่ดีพอ ก็อาจจะทำให้เกิดสภาวะขาดทุนเอาได้ง่ายๆ ดังนั้นปัจจัยในเรื่องนี้คือสิ่งสำคัญ
3.คู่แข่งในพื้นที่ ในยุคที่เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ คู่แข่งของคนทำธุรกิจหอพักไม่ได้มีแค่เพื่อนร่วมอาชีพเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันไม่ว่าจะอพาร์ทเม้นท์ โรงแรมหรือแม้แต่โฮสเทล ก็ปรับตัวหันมาปรับรูปแบบการให้บริการที่ไม่แตกต่างจากหอพักมากเท่าไหร่นัก ทำให้คุณอาจจะ “ต้องวางแผนอย่างหนัก” เพื่อให้หอพักของคุณตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าได้มากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ และคุณจะได้กลายเป็นเสือนอนกินแบบสมใจอยาก
4.กฎหมายว่าด้วยหอพัก ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจหอพักจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุนสร้างหรือรีโนเวท เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง และเพื่อให้ทราบหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการคิดค่าใช้จ่ายหรือค่าบริหารจัดการส่วนกลาง เพราะแว่วมาว่ากฎหมายฉบับล่าสุดคุ้มครองผู้เช่าจนผู้ประกอบกิจการห้องเช่าโอดครวญกันเป็นแถวเลยล่ะ
นำข้อมูลที่ได้มาประมวลผลก่อนตัดสินใจลงทุนธุรกิจเสือนอนกิน!
นำข้อมูลทั้งหมดมาลองประมวลผลก่อนตัดสินใจ หากเงินลงทุนที่จะนำมาใช้เป็นแบบเงินร้อน การติดลบเสียแต่เริ่มต้น อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีมากนักในยุคปัจจุบัน อย่างน้อยการมีหอพักหลัก 10 – 20 ห้อง ต้องใช้เงินไม่น้อยกว่า 5 – 10 ล้านบาท ซึ่งเมื่อนำเงินลงทุนมาคำนวณกับรายรับที่ได้จากค่าเช่าห้องในแต่ละเดือน ก็จะสามารถคำนวณได้คร่าว ๆ แล้วว่าอีกกี่ปีคุณถึงจะได้ทุนคืน โดยที่ค่าเช่าห้องที่นำมาคำนวณนั้น จะต้องไม่ลืมหักรายจ่ายประจำเดือนออกเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าบำรุงรักษา ค่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย การติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยของผู้เข้าพัก รวมถึงค่าจ้างพนักงานดูแลหอพัก อย่างผู้จัดการหอ แม่บ้าน และรปภ. นี่ยังไม่รวมประเด็นอื่น ๆ ที่เหลือ แค่ข้อแรกคุณก็น่าจะพอตัดสินใจได้แล้วว่าสำหรับตัวคุณเอง ควรไปต่อหรือพอแค่นี้ ?
สุดท้ายนี้คุณจะได้คำตอบจากสิ่งที่คุณมีอยู่ในมือ ว่าแท้ที่สุดแล้วคุณสามารถเป็นเสือนอนกินในธุรกิจหอพักได้หรือไม่ ? และแม้ว่าหลายๆ คน จะบอกว่าหมดยุคทำเงินของธุรกิจนี้แล้ว แต่เรายังเชื่อว่า “เสือก็ยังเป็นเสืออยู่วันยันค่ำ” เพียงแต่คุณอาจจะต้องหาวิธีที่เหมาะสมในการดำเนินงาน เพื่อสร้าง Passive Income จากธุรกิจหอพักที่จะทำให้คุณและครอบครัวสุขสบายได้ในระยะยาว!