หลายๆ คน คงจะกำลังสงสัยอยู่ว่า “ภาษีมรดก” คืออะไร ? ใครจะต้องจ่ายภาษีมรดก ? เพราะฉะนั้นในวันนี้ทางทีมงาน Renthub จึงได้สรุปใจความสำคัญเกี่ยวกับภาษีมรดกในแบบฉบับที่เข้าใจได้ง่ายๆ มาฝากเหมือนเช่นเคย ซึ่งถ้าพร้อมแล้ว เราไปติดตามข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับภาษีมรดกพร้อมๆ กันเลย
ภาษีมรดกคืออะไร ?
ภาษีมรดก (Inheritance Tax) คือ ภาษีที่กรมสรรพากรเรียกเก็บจากผู้ที่ได้รับมรดก โดยต้องมีมูลค่ามรดกที่ได้รับเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป ถึงจะสามารถเรียกเก็บภาษีมรดกได้ ซึ่งอัตราในการเรียกเก็บภาษีมรดกคือ 5 – 10% จากมรดกในส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ทรัพย์สินมรดกที่จะต้องเสียภาษี ตามกฎหมายได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ได้ แก่ "สังหาริมทรัพย์" และ "อสังหาริมทรัพย์" โดยจะมีการแบ่งออกเป็น 5 ประเภทย่อยๆ ดังนี้
อสังหาริมทรัพย์ : บ้าน คอนโด หอพัก อพาร์ทเม้นท์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ (ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ)
เงินฝาก : เงินฝากในธนาคาร หรือเงินในรูปแบบอื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน (ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ)
หลักทรัพย์ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ : หุ้น หุ้นกู้ ตราสารหนี้ หน่วยลงทุนและตราสารอนุพันธ์ต่างๆ ที่ออกโดยนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยหรือต่างประเทศก็ได้
ยานพาหนะที่มีหลักฐานทางทะเบียน : รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ เรือ เครื่องบิน ฯลฯ ทั้งที่จดทะเบียนในประเทศไทยและต่างประเทศ
ทรัพย์สินทางการเงิน : ที่จะถูกกำหนดเพิ่มขึ้นตามกฎหมายในอนาคต
อัตราการเก็บภาษีมรดก
อัตราในการเก็บภาษีมรดกนั้น จะมีการจัดเก็บภาษีในอัตราที่มั่นคงและมีกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ชัดเจน โดยทางทีมงานได้สรุปออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้
ผู้ที่ได้รับมรดกเป็นบุพการี พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย หรือผู้สืบสันดาน เช่น ลูก หลาน เหลน จะเสียภาษีมรดกอยู่ที่ 5%
ผู้ที่ได้รับมรดกเป็นสามี ภรรยา ที่ได้มีการจดทะเบียนสมรส ไม่ต้องเสียภาษีมรดก
ผู้ที่ได้รับมรดกเป็นบุคคลภายนอก ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ให้มรดก จะเสียภาษีมรดกอยู่ที่ 10%
และในกรณีที่มีการยกมรดกให้หน่วยงานรัฐหรือยกให้แก่สาธารณะ มรดกก้อนนั้นจะได้รับการรยกเว้นภาษีมรดก
ใครบ้างที่จะต้องเสียภาษีมรดก ?
คำตอบง่ายๆ ของคำถามนี้เลยก็คือ...”ผู้ที่จะต้องเสียภาษีมรดกก็คือผู้ที่ได้รับมรดก” โดยอัตราการเสียภาษีมรดก ก็ตามรายละเอียดที่เราได้กล่าวไปเมื่อข้างต้น ทั้งนี้มูลค่าของมรดกจะต้องเกิน 100 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ได้รับมรดกจะต้องเสียภาษีเฉพาะส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท โดยรายละเอียดของผู้ที่จะได้รับมรดกมีดังนี้
บุคคลธรรมดา
นิติบุคคลที่มีสัญชาติไทย
หากผู้รับมรดกที่เป็นนิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด หากอยู่ในเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ก็จะต้องเสียภาษีมรดกเช่นกัน
เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย
นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายในประเทศไทย
เป็นนิติบุคคลที่ผู้มีสัญชาติไทย ถือหุ้นเกินร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วในขณะมีสิทธิได้รับมรดก
เป็นนิติบุคคลที่ผู้มีสัญชาติไทย เป็นผู้มีอำนาจบริหารกิจการเกินกึ่งหนึ่งของคณะบุคคลซึ่งมีอำนาจบริหารกิจการทั้งหมด
ในกรณีที่นิติบุคคลไม่มีสัญชาติไทย และหากได้รับมรดกอันเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศไทย ให้เสียภาษีจากทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
หากไม่ยอมเสียภาษีมรดกจะเกิดอะไรขึ้น ?
หากได้รับมรดกไปแล้ว แต่หลีกหนีไม่ยอมเสียภาษีมรดก เราก็ขอบอกเลยว่ามีความผิดทางกฎหมายแบบเต็มๆ ซึ่งบทลงโทษจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
บทลงโทษสำหรับบุคคลธรรมดา
หากไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี (ภ.ม.60) โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท
หากไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานประเมิน หรือไม่ยอมตอบคำถามของเจ้าพนักงานประเมิน หรือของประธานคณะกรรมการอุทธรณ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากทำลาย ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือโอนไปซึ่งทรัพย์สินที่ถูกยึด หรืออายัด ให้แก่บุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 400,000 บาท
หากจงใจยื่นข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี หรือให้ความเท็จ โดยเจตนาละเลย โดยฉ้อโกงหรือใช้อุบาย โดยวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใด หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี หรือแนะนำหรือสนับสนุนให้บุคคลอื่นกระทำการดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทลงโทษสำหรับนิติบุคคล
หากผู้กระทำความผิดเป็นนิติบุคคล ให้กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนของนิติบุคคล ต้องรับโทษ โดยถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้น
รายละเอียดทั้งหมดเป็นข้อมูลเกี่ยวกับ “ภาษีมรดก” ที่ทางทีมงาน Renthub ได้สรุปใจความสำคัญมาฝาก ซึ่งหอพักหรืออพาร์ทเม้นท์ที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ก็ถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่จะกลายเป็นมรดกให้แก่รุ่นลูกรุ่นหลานของเราต่อไป ดังนั้นหากคุณศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับภาษีไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยทำให้คุณสามารถวางแผนทางการเงินและวางแผนชีวิตในอนาคตได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
: Renthub Blog บทความที่รวมทุกๆ เรื่องราวของชาวหอพัก