สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายที่เรียน ย้ายที่ทำงาน หรือแค่กำลังมองหาพื้นที่ของตัวเอง หอพักหรือห้องเช่าถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ และถ้าคุณเป็น “มือใหม่” ที่ไม่เคยหาห้องเช่ามาก่อนเลย อาจรู้สึกงง ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ไม่รู้ว่าอะไรควรเช็ค อะไรควรถาม หรือจะหาหอที่น่าอยู่ได้จากช่องทางไหน
ไม่ต้องห่วงเลย! บทความนี้จะเป็นไกด์แบบ step-by-step ที่จะพาคุณไปทีละขั้นตอน ตั้งแต่ช่วงที่คุณยังแค่ “เริ่มคิด” ว่าอยากย้าย ไปจนถึงจังหวะที่คุณพบ “ห้องที่ใช่” และมั่นใจว่าจะเข้าอยู่ได้อย่างสบายใจ ไม่มีพลาด ไม่มีโดนหลอก
นอกจากนี้ เรายังรวมเทคนิคและทริคดี ๆ ในการใช้งาน เว็บไซต์ Renthub.in.th ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมหอพัก อพาร์ทเมนท์อันดับ 1 ในประเทศไทย ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 11 ล้านคน/ปี รับรองว่าถ้าคุณอ่านบทความนี้จบจะหาหอพักได้ง่าย ๆ แม้จะเป็นครั้งแรกก็ตาม เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาทีมงานขอพาทุกท่านเข้าสู่ Step 1 ก่อนเลย

Step 1 : เริ่มจาก "รู้ความต้องการของตัวเอง"
ก่อนที่คุณจะเริ่มหาหอพักหรือห้องเช่าออนไลน์ สิ่งสำคัญที่สุดอย่างแรกคือ การรู้ว่ากำลังมองหาอะไรอยู่ เพราะถ้าไม่ชัดเจนกับความต้องการของตัวเอง การค้นหาในเว็บไซต์จะกลายเป็นเรื่องยาก และอาจเสียเวลาไปกับการดูหอที่ไม่ตรงใจ
ลองเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการถามตัวเองแบบตรงไปตรงมา:
- อยากอยู่แถวไหน?
ย่านไหนที่เดินทางสะดวกสำหรับคุณ เช่น ใกล้รถไฟฟ้า (BTS/MRT), ใกล้มหาวิทยาลัย, ที่ทำงาน, หรือย่านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เช่น ตลาด, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ
- งบประมาณค่าเช่าต่อเดือนที่ไหวอยู่ที่เท่าไหร่?
กำหนดช่วงราคาที่เหมาะกับรายได้ของคุณ เพื่อไม่ให้ค่าเช่าเป็นภาระในระยะยาว
- ต้องการห้องลักษณะไหน?
เช่น ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบ, มีแอร์, อินเทอร์เน็ต หรือจะเลือกห้องเปล่าเพื่อประหยัดงบก็ได้
- จะอยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อน/แฟน?
ถ้าอยู่หลายคน อาจต้องหาห้องที่กว้างขึ้น หรือมีห้องนอนแยกเพื่อความสะดวก
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรที่เป็น “สิ่งจำเป็น” ไหม?
เช่น ลิฟต์, ที่จอดรถ, กล้องวงจรปิด, เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ, ฟิตเนส หรือแม้แต่หอที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์
การตั้งคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่า "หอพักที่ใช่" สำหรับคุณนั้นหน้าตาเป็นแบบไหน
Tip : เมื่อคุณรู้แล้วว่าคุณต้องการอะไร การเข้าไปใช้เว็บไซต์ Renthub จะง่ายขึ้นมาก เพราะคุณสามารถใช้ฟีเจอร์ “ระบบตัวกรอง (Filter)” เพื่อกรองเฉพาะห้องที่ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการ เช่น ช่วงราคา, สิ่งอำนวยความสะดวก, เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องไล่ดูห้องทีละห้อง และทำให้การตัดสินใจเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

Step 2 : เข้าเว็บไซต์ Renthub แล้วเริ่มค้นหา...
เมื่อคุณรู้แล้วว่าตัวเองอยากได้ห้องแบบไหน ขั้นตอนต่อไปก็คือ เริ่มลงมือค้นหา ซึ่งในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องเดินหาตามหอ หรือถามปากต่อปากเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว เพราะคุณสามารถค้นหาหอพักและอพาร์ทเม้นท์ได้ง่าย ๆ บนเว็บไซต์ Renthub หรือค้นหาผ่านแอปฯ Renthub ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมหอพัก อพาร์ทเมนท์อันดับ 1 ในประเทศไทย มีผู้ใช้งานบนเว็บไซต์หลายล้านคน และติดอันดับบนสุดผลการค้นหาของ Google อย่างสม่ำเสมอ
การใช้งาน Renthub นั้น ง่ายมากและเป็นมิตรกับมือใหม่ โดยสามารถเริ่มได้ใน 3 ขั้นตอนหลัก ๆ:
-
ใส่ทำเลที่ต้องการ
เริ่มจากพิมพ์ชื่อสถานที่ที่คุณอยากอยู่ เช่น สถานีรถไฟฟ้า (BTS/MRT), ชื่อย่าน, ชื่อมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ชื่อถนน โดยระบบจะช่วยแนะนำชื่อสถานที่ให้ทันทีที่คุณเริ่มพิมพ์ ทำให้ค้นหาได้สะดวกและรวดเร็ว
-
ใช้ระบบตัวกรองเพื่อค้นหาให้แม่นยำขึ้น
เมื่อได้ทำเลแล้ว ต่อมาคือการปรับ "ฟิลเตอร์" ให้ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการ เช่น กำหนดช่วงราคาค่าเช่า, เลือกประเภทห้อง (หอพัก, อพาร์ทเม้นท์, ห้องเช่ารายเดือน), เลือกสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องมี เช่น เฟอร์นิเจอร์, เครื่องปรับอากาศ, อินเทอร์เน็ต, ที่จอดรถ ฯลฯ ฟีเจอร์นี้ช่วยตัดตัวเลือกที่ไม่ตรงใจออกไป และแสดงเฉพาะห้องที่ตรงกับความต้องการจริง ๆ เท่านั้น
-
กดค้นหา หรือเลื่อนแผนที่เพื่อดูหอรอบ ๆ
หลังจากตั้งค่าทุกอย่างเสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม “ค้นหา” จากนั้น Renthub จะแสดงผลลัพธ์ทั้งหมดในรูปแบบรายการ พร้อมกับแผนที่ด้านข้าง คุณสามารถใช้แผนที่เลื่อนดูบริเวณใกล้เคียงได้ และหากเจอบริเวณที่น่าสนใจ สามารถกดปุ่ม “ค้นหาบริเวณนี้” เพื่อดูหอพักเฉพาะในพื้นที่นั้นได้เลย
Tip : ถ้าคุณเปิดเว็บไซต์ผ่านมือถือ อย่าลืมใช้ฟีเจอร์ “ค้นหาบริเวณใกล้ฉัน” ซึ่งใช้ GPS เพื่อแสดงหอที่อยู่ใกล้ตัวคุณ ณ ตอนนั้นทันที เหมาะมากถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ที่อยากหาหอ เช่น ไปเดินแถวมหาวิทยาลัยหรือออฟฟิศ แล้วอยากรู้ว่ารอบตัวมีหออะไรให้เลือกบ้าง

Step 3 : อ่านรายละเอียดและเปรียบเทียบราคา
เมื่อคุณเริ่มเจอหอพักที่ดูน่าสนใจบนหน้าเว็บไซต์ Renthub แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ คลิกเข้าไปดูรายละเอียดของแต่ละห้อง เพื่อเช็กให้มั่นใจก่อนตัดสินใจ เพราะแม้จะอยู่ในทำเลเดียวกัน ราคาคล้ายกัน แต่รายละเอียดของแต่ละหออาจแตกต่างกันมาก — ทั้งขนาดห้อง เงื่อนไข และสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจจอง
สิ่งสำคัญที่ควรดูและเปรียบเทียบ เช่น:
- ขนาดห้อง และราคาค่าเช่า
หอแต่ละแห่งมีห้องหลายประเภท ทั้งห้องเล็ก ห้องใหญ่ ห้องมีระเบียง หรือมีครัว ลองดูว่าแบบไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด
- ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
ค่าน้ำเหมา หรือคิดเป็นหน่วย? ค่าไฟคิดตามการไฟฟ้าหรือเพิ่มราคา? มีค่าส่วนกลาง ค่าบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่?
- เงื่อนไขการเช่า
เช่น ต้องเช่าขั้นต่ำกี่เดือน? มัดจำกี่เดือน? มีค่าเช่าล่วงหน้า? นโยบายคืนเงินมัดจำเป็นอย่างไร?
- สิ่งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย
ลิฟต์ ที่จอดรถ กล้องวงจรปิด ระบบคีย์การ์ด พื้นที่ส่วนกลาง อินเทอร์เน็ต ฯลฯ มีครบไหม และรวมในค่าเช่าหรือไม่?
- รีวิวจากผู้เช่าจริง
ความเห็นจากผู้เคยอยู่จะช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องบริการ ความสะอาด เสียงรบกวน หรือการแก้ไขปัญหาของเจ้าของหอ
วิธีใช้ Renthub ให้เปรียบเทียบหอได้ง่ายยิ่งขึ้น!
- ดูคะแนนและรีวิวผู้เช่าจริง ได้จากด้านล่างของหน้ารายละเอียดหอ
คุณสามารถอ่านคอมเมนต์เพิ่มเติม เพื่อประกอบการตัดสินใจจากประสบการณ์ของคนที่เคยอยู่จริง
- หากลังเลระหว่างหลายหอพัก ลองใช้ฟีเจอร์ “เพิ่มรายการเปรียบเทียบ”
ระบบจะช่วยดึงข้อมูลของหอแต่ละแห่งมาแสดงเปรียบเทียบกันในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นราคา ขนาดห้อง สิ่งอำนวยความสะดวก หรือเงื่อนไขการอยู่
- นอกจากรูปภาพแล้ว ยังสามารถรับชมภาพ 360 องศา ที่คุณสามารถหมุนดูรอบห้องได้ราวกับไปยืนอยู่ในสถานที่จริง ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องไปดูทุกหอ
✅ ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้เฉพาะบนแอป Renthub เท่านั้น
เพียงดาวน์โหลดแอปฯ Renthub บนมือถือ (iOS/Android) แล้วคุณจะสามารถเพิ่มหอที่สนใจเข้า “รายการเปรียบเทียบ” และดูความแตกต่างได้อย่างสะดวกในหน้าจอเดียว

Step 4 : ติดต่อเจ้าของหอผ่าน Renthub
เมื่อคุณเจอห้องที่ตรงใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ติดต่อเจ้าของหอหรือผู้ดูแลเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนตัดสินใจ ซึ่งบนเว็บไซต์ Renthub นั้นออกแบบมาให้ติดต่อได้ง่ายและสะดวกสุด ๆ ไม่ต้องเสียเวลาหาเบอร์โทรจากที่อื่น หรือกังวลว่าจะติดต่อใครไม่ได้
บน Renthub มีให้เลือก 2 ช่องทางหลัก:
-
แชทกับเจ้าของหอหรือผู้ดูแลได้ทันที
สามารถแชทกับเจ้าของหอหลายแห่งได้พร้อมกัน สะดวกเพียงแชทผ่านแอปฯ Renthub แถมยังไม่ต้องเปิดเผยเบอร์โทรให้กับอีกฝ่าย ซึ่งปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
-
กดโทรศัพท์จากหน้าเว็บหรือแอปได้โดยตรง
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการข้อมูลด่วน หรือต้องการนัดดูห้องเร็ว ๆ การติดต่อผ่านการโทรจึงเป็นช่องทางทีรวดเร็วที่สุด ซึ่งบางครั้งเจ้าของหอพัก อพาร์ทเม้นท์ก็ทำ Promotion ร่วมกับ Renthub การบอกว่าติดต่อมาจาก Renthub อาจช่วยให้คุณไม่พลาดโปรฯ ดีๆ หรือส่วนลดค่าเช่าได้
📌 สิ่งที่ควรถามเวลาเริ่มคุยกับเจ้าของหอ:
- ห้องยังว่างอยู่ไหม?
- ค่าเช่ารวมค่าส่วนกลางแล้วหรือยัง?
- เข้าอยู่ได้เมื่อไหร่?
- เงื่อนไขการจองห้องเป็นอย่างไร?
ข้อดีของระบบแชทบน Renthub คือ:
- คุณสามารถเก็บบทสนทนาไว้ย้อนดูภายหลังได้
- เจ้าของหลายคนตอบแชทค่อนข้างไว
- เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเปิดเผยเบอร์โทร แต่ก็ยังสามารถสอบถามข้อมูลได้ครบถ้วน

Step 5 : นัดดูห้องจริง ก่อนตัดสินใจ
แม้ในเว็บจะมีรูปภาพและข้อมูลครบถ้วน แต่ การไปดูห้องจริงก่อนตัดสินใจ ก็ยังเป็นขั้นตอนที่แนะนำมาก เพราะไม่มีอะไรแทนประสบการณ์จริงได้
สิ่งที่ควรเช็กเมื่อไปดูห้องจริง:
- ห้องตรงกับภาพที่เห็นในเว็บไหม?
- มีเสียงดังรบกวนจากภายนอกหรือเพื่อนบ้านไหม?
- แดดส่องเข้าห้องไหม? ห้องอับหรือโปร่ง?
- ระบบไฟ น้ำ แอร์ และเฟอร์นิเจอร์อยู่ในสภาพดีหรือไม่?
Tip : หากต้องการหอพักอย่างเร่งด่วนการโอนจองเลยก็ทำให้ได้ห้องเร็ว แต่ทีมงานขอแนะนำให้เลือกหอพัก หรือผู้ใช้งานที่ได้รับการยืนยันตัวตนจาก Renthub แล้ว เพื่อความน่าเชื่อถือและป้องกันการแอบอ้าง แต่เพื่อไม่ให้พลาดอะไรไป หลังคุยรายละเอียดลงตัวแล้ว ควรลองนัดเข้าไปชมห้องจริง หรือภาพรวมของหอสักครั้งนึงก่อนที่จะทำสัญญาจอง

Step 6 : อ่านสัญญาให้ละเอียด ก่อนเซ็น
หลังจากเจอห้องที่ถูกใจและตกลงกับเจ้าของได้เรียบร้อย ขั้นตอนสุดท้ายก่อนย้ายเข้าคือ การอ่านสัญญาเช่าอย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
สิ่งที่ควรตรวจสอบในสัญญา:
- จำนวนเงินค่าเช่า ค่ามัดจำ และค่าล่วงหน้าที่ต้องจ่าย
- เงื่อนไขการคืนเงินมัดจำ (เช่น ต้องแจ้งล่วงหน้ากี่วัน)
- ค่าน้ำ-ไฟคิดตามหน่วย หรือเหมาจ่าย?
- ข้อกำหนดต่าง ๆ เช่น ห้ามเลี้ยงสัตว์ ห้ามเสียงดัง ห้ามปรับปรุงห้อง ฯลฯ
Tip : หากมีส่วนใดในสัญญาที่คุณไม่เข้าใจ หรือยังไม่แน่ใจ ให้สอบถามเจ้าของหอทันที อย่ารีบเซ็นโดยไม่อ่าน เพราะสัญญาเช่าคือเอกสารสำคัญที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย

Step 7 : ย้ายเข้าและเริ่มต้นชีวิตเด็กหอกันได้เลย!
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและสัญญาเช่า ก็ถึงเวลา ย้ายเข้าห้องใหม่อย่างเป็นทางการ
อย่าลืมตรวจเช็กห้องก่อนเข้าอยู่จริง เช่น ถ่ายรูปห้องเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งสภาพเฟอร์นิเจอร์ ผนัง พื้น หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ หากมีความเสียหายก็ควรแจ้งเจ้าของหอไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในอนาคต จากนั้นก็เตรียมตัวใช้ชีวิตในห้องใหม่อย่างสบายใจได้เลย!
Tip :
- ถ่ายรูป/วิดีโอตอนรับห้องไว้ให้ครบ เช่น มุมห้อง, รอยตำหนิ, มิเตอร์น้ำ-ไฟ, เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ จะช่วยเป็นหลักฐานหากต้องคืนห้องในอนาคต
- ขอข้อมูลการติดต่อผู้ดูแลหรือช่างประจำหอ เผื่อกรณีฉุกเฉิน เช่น น้ำรั่ว ไฟดับ
- ลองใช้งานอุปกรณ์ในห้องทันทีหลังย้ายเข้า เช่น ไฟ, แอร์, เครื่องทำน้ำอุ่น เพื่อแจ้งปัญหาได้ทันทีหากมี
สำหรับใครที่กำลังมองหาหอพักครั้งแรก อาจรู้สึกว่ามีรายละเอียดเยอะ ต้องเลือกเยอะ หรือติดต่อยาก แต่จริง ๆ แล้วทุกอย่างจะง่ายขึ้นมาก ถ้าคุณใช้ Renthub เพราะเรารวบรวมฟีเจอร์สำคัญไว้ครบถ้วน ทั้งระบบตัวกรองที่ละเอียดให้คุณหาห้องตรงใจได้ไวขึ้น, แผนที่ค้นหาใกล้ฉันที่สะดวกโดยเฉพาะเวลาหาห้องผ่านมือถือ, ระบบรีวิวจากผู้เช่าจริงที่ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น, การแชทกับเจ้าของหอได้ทันที และช่องทางติดต่อที่หลากหลาย
หาหอพักที่ www.renthub.in.th แล้วคุณจะรู้ว่าการหาห้องเช่าออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป — "แค่คลิกเดียว ห้องที่ใช่ก็อยู่ใกล้กว่าที่คิด"